สิวขึ้นที่แก้มไม่ยอมหายสักที หรือบางครั้งก็รักษาจนอาการดีขึ้น แต่ก็กลับมาเห่อขึ้นใหม่อีกครั้งจนไม่ทันได้ตั้งตัว สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังพบเจอกับปัญหาดังกล่าวนี้ เราจะมาช่วยไขข้อสงสัยถึงสาเหตุที่ทำไมสิวที่แก้มไม่ยอมหายไปสักที จะได้ป้องกันไม่ให้ต้นตอสาเหตุมาทำลายผิวหน้าและความมั่นใจอีกต่อไป ตามมาดู 5 สาเหตุกันเลยค่ะ
1.ปลอกหมอนที่ใช้สกปรก
ปลอกหมอนที่ใช้ทุกคืน ถือเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและแบคทีเรีย ดังนั้นอย่าคิดว่าปลอกหมอนไม่มีกลิ่นเหม็นแล้วจะไม่มีเชื้อโรคเด็ดขาด สาวๆ จึงควรเปลี่ยนปลอกหมอนใหม่ทุกสัปดาห์ โดยหมั่นเอาไปซักและตากแดดให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค เพราะปลอกหมอนคือ สิ่งของเครื่องใช้ที่ผิวบริเวณแก้มสัมผัสอยู่ทุกคืน
2.ดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดส่งผลต่อความสมดุลของตับ ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าตับเป็นอวัยวะที่มีความเกี่ยวข้องกับผิว ซึ่งเครื่องดื่มชนิดนี้ถือเป็นตัวการทำลายตับ และเมื่อตับถูกทำลายก็ย่อมส่งผลให้เกิดสิวที่แก้มได้อย่างไม่น่าแปลกใจเลย
3.แนบมือถือที่แก้ม
การใช้มือถือบ่อยๆ โดยเฉพาะการแนบมือถือไว้ที่แก้มทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์ ส่งผลให้สิวที่แก้มเห่อขึ้นมาจนน่าตกใจ เพราะมือถือที่เราใช้เป็นประจำนั้น ถือเป็นแหล่งรวมของสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่กลับให้ผลเสียบนแก้มและผิวหน้าได้อย่างชัดแจ้งที่สุด
4.เผชิญฝุ่นควันและมลภาวะเป็นพิษ
ฝุ่นควันและอากาศมีพิษ ส่งผลให้ผิวหน้าโดยเฉพาะบริเวณแก้มมีสิวขึ้นบ่อยมาก เพราะผิวบริเวณดังกล่าวถือเป็นบริเวณที่สัมผัสกับมลภาวะโดยตรง ดังนั้นหากสามารถลดโอกาสในการสัมผัสฝุ่นควันได้ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยก็แนะนำให้ทำ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาสิวที่แก้มให้หายดีและสร้างความแข็งแรงให้กับผิวหน้าไปด้วย
5.สุขภาพในช่องปากไม่ดี
สุขภาพในช่องปากมีผลต่อการเป็นสิวที่แก้มได้เช่นกัน โดยเฉพาะสิวที่เกิดบริเวณแก้มด้านล่าง มีสาเหตุมาจากการที่สุขภาพในช่องปากไม่ดี เหงือกและฟันมีปัญหา ส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวมีสิวขึ้นได้
แม้สาวๆ จะทุ่มเทกับการรักษาสิวให้หายดี และเสียเงินไปกับการรักษาสิวมากเท่าไหร่ก็ตาม หากยังคงละเลยสาเหตุใกล้ตัวที่ทำให้สิวที่แก้มไม่หายสักที ก็เท่ากับว่าการทุ่มเทรักษาสิวที่ผ่านมาอาจเป็นการทุ่มเทที่สูญเปล่าก็ได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆ ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ไปพร้อมๆ กับการดูแลรักษาสิวที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพกันต่อไป