การแต่งหน้านอกจากจะทำให้สาวๆ สวยขึ้นยังช่วยทำให้สาวๆ หน้าเด็กลงได้อีกนะคะ ซึ่งการแต่งหน้าที่ถูกวิธีมีส่วนช่วยทำให้สาวๆ หน้าเด็กลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในการเมคอัพแต่ละขั้นตอนก็มีวิธีลงที่ต่างกันออกไปเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าวิธีเมคอัพที่สาวๆ กำลังใช้อยู่นั้นถูกต้องหรือเปล่า เพราะการเมคอัพด้วยวิธีผิดๆ บางครั้งก็ทำให้หน้าของคุณดูแก่ขึ้นแบบที่คุณไม่รู้ตัวนั่นเอง
#1 บำรุงผิวเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง
การแต่งหน้าจะยิ่งได้ผลดีมากยิ่งขึ้นถ้าผิวหน้าเราดีค่ะ ซึ่งการแต่งหน้าเปรียบเสมือนเป็นการแก้ปัญหาจุดด้อยบนใบหน้าของเรารวมไปถึงการสร้างสีสันให้ใบหน้าของเราดูมีอะไรมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งถ้าผิวหน้าเรายิ่งดีหรือมีปัญหาน้อยลงเท่าไหร่การแต่งหน้าก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมากเท่านั้น การบำรุงผิวหน้าที่ถูกต้องนั้นอันดับแรกเราจำเป็นต้องทราบก่อนว่าผิวหน้าเราเป็นลักษณะไหน ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง ซึ่งผิวแต่ละแบบก็จะมีวิธีการบำรุงที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพผิวของแต่ละคนนั่นเอง
#2 อยากหน้าเด็กงานผิวต้องเป๊ะ
สิ่งเดียวที่จะแสดงให้เห็นถึงความหน้าเด็กที่สุดก็คืองานผิวที่ดีนั่นเองค่ะ โดยสิ่งสำคัญของงานผิวคงจะหนีไม่พ้นรองพื้นต่างๆ แน่นอน ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าการลงรองพื้นจริงๆ เป็นการลงเพื่อให้ได้งานผิวที่เรียบเนียนสม่ำเสมอไม่ใช่เพื่อการปกปิดดังนั้นแล้วเราไม่ควรลงให้หนามากเกินไปนะคะ เพราะมันจะทำให้การแต่งหน้าดูหนักและดูหน้าแก่ได้ ที่สำคัญเลยคือสาวๆ ควรเลือกรองพื้นให้ถูกต้องซึ่งสาวๆ สามารถเข้าไปดูวิธีการเลือกรองพื้นได้ที่บทความด้านล่างนี้เลยค่ะ 15 เทคนิคเลือกรองพื้นให้ตรงเฉด งานนี้ไม่มีคำว่าลอยอีกต่อไป!
#3 แค่เขียนคิ้วให้ถูกก็หน้าเด็กได้
การเขียนคิ้วมีส่วนช่วยให้ลุคการแต่งหน้าที่ออกมาเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ ซึ่งการเขียนคิ้วให้หน้าเด็กนั้นส่วนมากจะนิยมเขียนเป็นแนวคิ้วฐานตรงสไตล์เกาหลี และเขียนให้ดูหนาและฟูอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญเลยก็คือเรื่องสีของคิ้ว สีคิ้วที่อ่อนจะช่วยให้หน้าดูซอฟและเด็กลงดูเป็นธรรมชาติไม่ดูดุแบบการเขียนคิ้วสีเข้ม แต่ความอ่อนของสีคิ้วนั้นควรดูจากสีผมเป็นตัวแปรสำคัญค่ะ ซึ่งโทนสีควรใกล้เคียงกับสีผมของเราไม่ให้โดดไปกว่าสีผมมากนักถึงจะเป็นการเขียนคิ้วที่ถูกต้อง
#4 ปัดแก้มยังไงให้หน้าเด็ก
ในส่วนของการปัดแก้มให้หน้าเด็กและดูน่ารักเป็นธรรมชาติไม่ควรปัดให้เกินลงมาจากปีกจมูกของเราค่ะ เพราะจะทำให้แก้วดูย้วยได้ ที่สำคัญคือต้องระวังไม่ให้สีบลัชออนเข้มจนเกินไปจนกลายเป็นตูดลิงด้วยนะคะ วิธีปัดแก้มอย่างง่ายเลยก็คือให้อมยิ้มตอนปัดแก้มค่ะ และอย่าลืมเคาะแปรงปัดแก้มก่อนปัดนะคะ เพราะสีที่ติดแปรงอาจจะมากเกินไป ให้เริ่มจากการลงอ่อนๆ ไปเข้มในระดับที่เราพอใจดีกว่ามานั่งแก้ทีหลัง ส่วนการเลือกสีที่ดีนั้นถ้าสาวๆ คนไหนมีผิวขาวให้เลือกใช้สีชมพูหรือแดงจะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดียิ่งขึ้น และถ้าสาวๆ คนไหนมีผิวสองสีให้ใช้สีโทนส้มค่ะ
#5 อย่าละเลยริมฝีปาก
ริมฝีปากที่สวยดูสุขภาพดีคือริมฝีปากที่ดูนุ่มชุ่มชื่น ไม่แตกแห้งนะคะ ถ้าสาวๆ คนไหนมีปัญหาริมฝีปากแห้งอย่านิ่งนอนใจ ควรทาลิปบำรุงริมฝีปากอยู่เสมอ โดยเฉพาะตอนแต่งหน้าอย่าลืมทาลิปมันหรือลิปบาล์มก่อน รอให้ตัวลิปซึมซักเล็กน้อยแล้วจึงลงลิปสติกนะคะ อีกวิธีที่จะช่วยให้สาวๆ มีริมฝีปากเนียนนุ่มคือการใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆ บริเวณปากเปรียนเหมือนการสครับริมฝีปากเราแบบง่ายๆ ค่ะ ทำปริมาณอาทิตย์ละสองครั้งก็พอค่ะ
#6 ไฮไลท์ให้ถูกจุด
การไฮไลท์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มแสงให้ใบหน้าในส่วนที่เราต้องการให้โดดเด่นค่ะ เพราะฉะนั้นการทาไฮไลท์จึงเป็นการทาเฉพาะจุดไม่ใช่ทุกส่วนบนใบหน้านะคะ ส่วนมากจะนิยมลงไฮไลท์บริเวณทีโซนและโหนกแก้มเพื่อให้ใบหน้าดูพุ่งเด่นยิ่งขึ้นค่ะ และสาวๆ คนไหนที่มีสภาพผิวหน้ามันควรลงไฮไลท์ให้เบามือหน่อยค่ะเพราะการไฮไลท์อาจจะทำให้สาวๆ ดูหน้ามันมากกว่าเดิม นอกจากนี้คือต้องระวังอย่าปัดไฮไลท์มากเกินไปจนเงาเป็นหนังปลาทูดูไม่เป็นธรรมชาติด้วยนะคะ
#7 อย่าลงบรอนเซอร์ให้ดูแก่
ถ้าการไฮไลท์เป็นการเพิ่มแสงให้ใบหน้า การใช้บรอนเซอร์ก็เปรียบเสมือนการสร้างเงาให้ใบหน้าของเรานั่นเอง ซึ่งการลงบรอนเซอร์ในส่วนที่เราต้องการเพิ่มเงาเรียกว่าการคอนทัวร์ค่ะ โดยการคอนทัวร์แต่ละครั้งเราควรระวังมือไม่ให้ลงสีบรอนเซอร์หนักจนเกินไปนัก เพราะการลงบรอนเซอร์ที่เข้มเกินไปจะทำให้หน้าของเราดูแก่นั่นเอง และที่สำคัญเราควรดูจุดที่เราต้องการคอนทัวร์ให้ดีเพราะถ้าลงผิดอาจทำให้ไปกลบจุดเด่นของเราได้ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมลงบรอนเซอร์บริเวณสันจมูก โดนผมทั้งสองข้าง และบริเวณกรอบหน้าเพื่อให้แลดูส่วนนั้นเล็กลงค่ะ
#8 เลือกทาอายแชโดว์ให้เป็น
วิธีลงอายแชโดว์ที่ถูกต้องคือการใช้สีเข้มในการคัดเบ้า และใช้สีอ่อนกว่าทาให้ทั่วเปลือกตาค่ะ แนะนำว่าให้ใช้สีเดียวกันทาบริเวณขอบตาล่างเพื่อให้การแต่งตาดูละมุนและกลมกลืนมากยิ่งขึ้นค่ะ โดยการแต่งตาให้ดูหน้าเด็กแนะนำว่าควรใช้อายแชโดว์สีอ่อนหรือกลางๆ ไม่เข้มจัดจนเกินไป หรือเน้นสีที่สุดสดใส ไม่ก็ให้ใช้เป็นอายแชโดว์เนื้อกลิตเตอร์จะช่วยให้ได้ลุคที่ใสมากขึ้น และเพื่อให้ดูหน้าเด็กลงอาจใช้วิธีแต่งตาแบบดอลลี่อายเข้ามาช่วย โดยการใช้ไฮไลท์ หรืออายแชโดว์เนื้อกลิตเตอร์มาทาใต้ตาช่วงหัวตาก็จะให้ลุคที่ดูเด็กลงได้ค่ะ
#9 งานขนตาสำคัญกว่าที่คิด
ถ้าอยากหน้าเด็กงานขนตาถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญนะคะ ขนตางอนยาวเด้งๆ หนาๆ เนี่ยแหละที่จะทำให้ตาของเราดูกลมโตและดูเด็กมากขึ้น ซึ่งการปัดขนตาก็ง่ายๆ เพียงแค่ดัดขนตาให้ได้ระดับที่เราพึงพอใจก่อน และจึงใช้มาสคาร่าปัดขนตาขึ้นไป สิ่งที่ต้องระวังในการใช้มาสคาร่าก็คืออย่าปัดที่เดิมซ้ำกันหลายรอบให้มันดูหนามากเกินไป ไม่อย่างนั้นแล้วแทนที่เราจะได้ขนตางอนเด้งแบบธรรมชาติเราอาจจะได้ขนตาแบบขายุงมากแทนดูไม่งามเลยค่ะ และจะให้ดีควรเลือกมาสคาร่าที่ติดทนด้วยนะคะจะได้ไม่เป็นแพนด้าระหว่างวัน
#10 กรีดตาไม่ใช่เรื่องยาก
การกรีดตาที่ทำให้เราดูเด็กและธรรมชาติมากที่สุดคือการกรีดให้ชิดโคนขนตามากที่สุดค่ะ อาจจะวิงหางออกมาเล็กน้อยแต่ไม่ต้องเยอะและหนามากเกินไป ให้กรีดตามรูปตาของเราไปเลย ถ้าใช้สีน้ำตาลในการกรีดก็จะช่วยให้หน้าดูเด็กลงอีกนะคะ แถมยังไม่ทำให้ดูดุด้วย ซึ่งอายไลน์เนอร์ก็มีหลายชนิดแต่ชนิดที่เขียนง่ายและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดก็คือแบบดินสอนั่นเองค่ะแถมยังติดทนอีกด้วย หรือบางคนอาจจะใช้อายแชโดว์สีเข้มมาเขียนแทนก็ได้เช่นกันซึ่งการเขียนด้วยอายแชโดว์จะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติสุดแต่อาจจะติดทนไม่เท่าแบบดินสอค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะกับวิธีแต่งหน้าที่ถูกต้องที่จะช่วยให้สาวๆ หน้าเด็กลง หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์แก่สาวๆ ทำให้สาวๆ แต่งหน้ากันอย่างถูกวิธีมากขึ้นนะคะ ซึ่งการแต่งหน้าให้ถูกต้องนอกจากจะทำให้เครื่องสำอางทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มที่แล้วยังทำให้เครื่องสำอางติดทนหน้าเราได้มากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้เรารู้สึกแต่งหน้าง่ายขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
คุณเคยถูกทักว่าหน้าเด็กหรือเปล่า?