รางจืดเป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงไม่เบา โดยเฉพาะสรรพคุณของรางจืดในเรื่องล้างพิษ หรือแก้เมา แต่นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้ว รางจืดยังมีดีที่อยากบอกให้รู้อีกเยอะ
แค่ชื่อสมุนไพรรางจืดก็คุ้นหูหรือผ่านตากันมาพอตัว เพราะรางจืดเองก็ถูกนำไปสกัดไว้ในรูปแบบแคปซูล หรือชาชง เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้เข้าถึงรางจืดได้ง่ายขึ้น และหากใครยังไม่รู้ สรรพคุณของรางจืด เรามาทำความรู้จักสมุนไพรตัวจี๊ดชนิดนี้กัน
รางจืด กับชื่อเสียงเรียงนาม
รางจืดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Thunbergia laurifolia Linn. ส่วนในชื่อภาษาอังกฤษนั้น รางจืดถูกเรียกขานว่า laurel clock, blue trumpet vine หรือ laurel-leaved thunbergia แต่ในบ้านเรารางจืดมีชื่อเรียกที่หลากหลายพอสมควรค่ะ ไม่ว่าจะเป็นว่านรางจืด กำลังช้างเผือก ขอบชะนาง เครือเขาเขียว ยาเขียว คาย รางเย็น ดุหว่า ทดพุด น้ำนอง ย่ำแย้ แอดแอ รางจืดเถา หรือหนามแน่ เป็นต้น
รางจืด ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
รางจืดมีลักษณะเป็นไม้เลื้อย มีเถาสีเขียวอมน้ำตาล รูปร่างค่อนข้างกลม ใบรางจืดเป็นรูปไข่ โคนใบมน ความกว้างของใบประมาณ 4-11 เซนติเมตร ยาว 10-16 เซนติเมตร ขอบใบค่อนข้างเป็นเหลี่ยม ปลายใบแหลม เรียว แผ่นใบหนา มันปลาบ ก้านใบยาว 1-6 เซนติเมตร
กลีบดอกรางจืดมีสีม่วง ลักษณะเป็นรูปกรวย กลีบเลี้ยงเกลี้ยง ปลายกลีบแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกเป็นรูปไข่ ปลายมน โดยหลอดด้านในมีสีเหลือง มีเกสรเพศผู้ 4 อัน ส่วนผลของรางจืดเป็นรูปทรงกลมคล้ายหลอด ปลายฝักแหลมและโค้งเล็กน้อยเป็นจะงอยปากนก ฝักอ่อนมีสีเขียว พอแก่สีจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลอมดำ ถ้าแก่เต็มที่ฝักจะปริออกเป็น 2 ซีก
รางจืด สรรพคุณดี๊ดี
สรรพคุณของรางจืดที่อยากนำเสนอมาก ๆ มีดังนี้
1. แก้ไข้
รางจืดเป็นสมุนไพรที่มีรสเย็น ตามตำรับยาสมุนไพรไทยใช้รางจืดปรุงเป็นยาเขียวแล้วดื่มเพื่อลดไข้
2. แก้ท้องเสีย ท้องร่วง
เนื่องจากสมุนไพรรางจืดมีฤทธิ์ถอนพิษผิดสำแดงหรือพิษอื่น ๆ จึงสามารถใช้รางจืดแก้อาการท้องร่วง ท้องเสียได้
3. ถอนพิษแมงดาทะเล
ในแมงดาทะเลหรือปลาปักเป้าจะมีสารพิษที่ชื่อว่า เทโทรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งหากมนุษย์ได้รับสารพิษชนิดนี้จากการกินแมงดาทะเลหรือปลาปักเป้าอาจร้ายแรงถึงตายได้ แต่มีรายงานจากโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เผยว่า ผู้ป่วย 2 รายที่กินแมงดาทะเลและรับสารพิษชนิดนี้เข้าไปมีอาการดีขึ้นหลังได้รับรางจืดผ่านการกรอกทางสายยาง และรอดชีวิตได้ในที่สุด
4. บรรเทาพิษยาฆ่าแมลง ยาเบื่อ
หมอพื้นบ้านมักจะนำรางจืดมาใช้ถอนพิษชาวบ้านที่ได้รับยาฆ่าแมลง ยาเบื่อชนิดต่าง ๆ โดยนำใบรางจืดสดมาคั้นน้ำให้ผู้ป่วยที่กินยาฆ่าแมลงดื่มโดยเร็วที่สุด เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล สอดคล้องกับงานวิจัยในหนูทดลองที่พบว่า สารสกัดด้วยน้ำของใบรางจืดมีฤทธิ์ต้านสารพิษพาราควอตได้ โดยทำให้อัตราการตายของหนูทดลองลดลง
ขณะที่การศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ก็พบเช่นกันว่า หนูทดลองที่กินผงจากรากรางจืดผสมกับน้ำยาสตริกนิน ไม่เป็นอันตรายใด ๆ แสดงให้เห็นว่าผงจากรากรางจืดสามารถช่วยดูดซับสารพิษชนิดนี้ไว้ได้ อย่างไรก็ตาม การจะนำมาใช้ในคนต้องมีการศึกษาถึงปริมาณที่เหมาะสมต่อไป
ขณะที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แนะนำวิธีใช้รางจืดขับสารพิษจากยาฆ่าแมลงหรือ สารกำจัดศัตรูพืช โดยนำใบสด 5-7 ใบ คั้นกับน้ำ 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) รับประทานก่อนอาหาร 3 เวลา ต่อเนื่อง 7 วัน ที่แนะนำให้ใช้เพียง 7 วัน เพราะรางจืดมีฤทธิ์เย็นเมื่อกินติดต่อกันอาจทำให้ระบบในร่างกายเสียสมดุลได้
5. รางจืดช่วยเลิกยาเสพติด
ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดรางจืดต่อเซลล์สมองแล้วพบว่า รางจืดมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทคล้ายกับสารเสพติดประเภทแอมเฟตามีนและโคเคน โดยมีฤทธิ์เพิ่มการหลั่งสารโดพามีนเช่นเดียวกับการออกฤทธิ์ของยาเสพติดดังกล่าว ฉะนั้นการให้ผู้ป่วยติดยาเสพติดได้รับการรักษาด้วยสารสกัดจากรางจืด อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความพึงพอใจเช่นเดียวกับการใช้สารเสพติด ดังนั้นรางจืดอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาอาการติดยาเสพติดด้วยสมุนไพรไทย
6. ช่วยแก้เมา-เลิกเหล้า
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาฤทธิ์ของรางจืดในการต้านพิษแอลกอฮอล์ต่อตับ ซึ่งพบว่า สารสกัดด้วยน้ำของรางจืด ช่วยป้องกันการตายของเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ในหลอดทดลองและในหนูทดลองที่ได้รับแอลกอฮอล์ โดยทำให้ค่า AST, ALT ในพลาสมาและไตรกลีเซอไรด์ในตับลดลง และลดการเปลี่ยนแปลงสภาพทางจุลพยาธิวิทยาของตับเมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับแอลกอฮอล์อย่างเดียว
นอกจากนี้ การศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ศึกษาฤทธิ์ของรางจืดต่ออาการขาดเหล้าพบว่า สารสกัดรางจืด ช่วยลดภาวะซึมเศร้าและมีส่วนทำให้พฤติกรรมที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของหนูเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี โดยไม่มีผลลดความวิตกกังวล ทว่าสารสกัดรางจืดช่วยลดการถูกทำลายของเซลล์ประสาทในหนูเนื่องจากขาดเหล้าได้
ขณะที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก็เผยสรรพคุณของรางจืดที่ช่วยบำรุงดูแลตับและช่วยลดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจได้ โดยจากการให้อาสาสมัครดื่มน้ำสกัดจากใบรางจืด 15 นาที ก่อนดื่มแอลกอฮอล์พบว่า สารสกัดรางจืดช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ใช้รางจืดในการต้านพิษสุรา เช่น ช่วยลดอาการเมาเหล้า และช่วยลดอาการแฮงก์หลังดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
7. ต้านอาการอักเสบ
รางจืดเป็นสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มีรายงานว่า หมอยาพื้นบ้านนิยมใช้รางจืดรักษาอาการผด ผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย เริม งูสวัด และยังมีการศึกษาว่า รางจืดมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบได้ดีเท่ากับยาสเตียรอยด์อีกด้วย
8. แก้ปวดบวม
ตำรับยาพื้นบ้านนิยมนำใบรางจืดมาตำแล้วพอกบริเวณที่ปวดหรือบวม โดยสารในใบรางจืดจะช่วยลดอาการอักเสบที่เป็นต้นเหตุของอาการปวด บวม รวมไปถึงอาการปวด บวมจากสัตว์มีพิษ ใบรางจืดก็จะช่วยถอนพิษร้ายให้
9. แก้ประจำเดือนไม่ปกติ บำรุงสตรีหลังคลอด
ตำรับยาไทยใช้รางจืดแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ และใช้บำรุงสตรีอยู่ไฟให้มีสุขภาพดีขึ้นด้วย
10. แก้ร้อนในกระหายน้ำ
ด้วยความที่เป็นสมุนไพรมีรสเย็น รางจืดจึงมีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำได้ด้วยนะคะ
รางจืดใช้อย่างไร
วิธีรับประทานรางจืดมีอยู่ 4 วิธีด้วยกัน ดังนี้
1. ต้ม
นำใบรางจืด 10-15 ใบ ใส่น้ำพอท่วม จากนั้นต้มไฟปานกลางจนน้ำเดือด ตั้งทิ้งไว้ 15 นาที แล้วปิดไฟ กรองเอาแต่น้ำมาจิบเป็นชา ดื่มวันละไม่เกิน 5 ครั้ง
2. กินสด
ล้างใบรางจืดให้สะอาดก่อนนำมาเคี้ยวสดครั้งละ 4-5 ใบ
3. ชนิดชง
สำหรับใบรางจืดชนิดชาชงให้ใช้รางจืดครั้งละ 2-3 กรัม ชงกับน้ำร้อน 120-200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร หรือเมื่อมีอาการ
4. ชนิดแคปซูล
รับประทานรางจืดชนิดแคปซูล 500 มิลลิกรัม – 1 กรัม วันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร
อย่างไรก็ตาม การใช้สมุนไพรรางจืดก็มีข้อควรระวังเช่นกันนะคะ
ข้อควรระวังในการรับประทานรางจืด
* หากมีโรคประจำตัวหรือต้องรับประทานยาเป็นประจำทุกวัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินรางจืด เพราะรางจืดอาจเร่ง การขับยาเหล่านั้นออกจากร่างกาย ทำให้ประสิทธิผลของยาลดลง หากรับประทานยาอื่นอยู่
* ไม่ควรกินรางจืดติดต่อกันเกิน 30 วัน เพราะอาจทำให้ร่างกายเกิดความเย็น มือเท้าชา เลือดลมเดินไม่สะดวก เนื่องจากรางจืดมีฤทธิ์เย็น ขณะเดียวกันบางงานวิจัยยังพบผลข้างเคียงจากการทานรางจืดในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้ระบบเลือด ตับ ไตทำงานผิดปกติได้
* กรณีรับประทานเพื่อล้างพิษในร่างกาย อาจรับประทานเฉพาะเวลามีอาการ เมื่อหายแล้วจึงหยุด หรือรับประทานรางจืดสัปดาห์ละ 2 วัน ไม่ควรทานติดต่อกันทุกวัน
* ควรระวังในการใช้รางจืดในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนเป็นอันตราย และมีอาการชาตามมือ-เท้า
* รับประทานรางจืดให้ห่างจากยาอื่น ๆ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
สมุนไพรรางจืดมีทั้งประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ แต่ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย เราก็ไม่ควรรับประทานสมุนไพรชนิดเดิมซ้ำ ๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ และทางที่ดีควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงด้วยนะคะ