ไม่จำเป็นต้องกินตามสูตรลดน้ำหนักที่เลื่องลือ ก็ลดไขมัน กู้หุ่นที่พังให้กลับมาปังได้ แค่เลือกลดความอ้วนแบบที่ใจเราว่าใช่เท่านั้น
คนที่อยากลดความอ้วนคงดูสูตรลดน้ำหนักมาหลายวิธี ทั้งคีโต หรือสูตร IF แต่หากไม่ใช่วิธีลดความอ้วนที่เราถนัด อาจไม่เห็นผลก็ได้ เพราะการจะเปลี่ยนนิสัยการกินที่ทำมาตั้งนาน อาจเป็นวิธีที่ยากไปสำหรับบางคน ดังนั้นมาลองลดความอ้วนใน Way ของตัวเองกันดีกว่า อย่างรีวิวลดน้ำหนักของคุณแม่ลูก 1 คนนี้ ก็เมินทุกสูตรลดน้ำหนักดัง ๆ แล้วหาวิธีลดไขมันด้วยตัวเอง จนเวลาผ่านไป 6 เดือน ก็เปลี่ยนเป็นร่างใหม่ที่แข็งแรงและไฉไลมากแม่ !
คุณแม่ลูก 1 รีวิว ลดไขมัน ภายใน 6 เดือน ไม่กินยา ไม่คีโต ไม่ if ไม่ขายของค่ะ
โดย คุณสมาชิกหมายเลข 1307482 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
(เพิ่งเคยเขียน Pantip ครั้งแรก ผิดพลาดอะไรไปต้องขอโทษด้วยนะคะ)
สวัสดีค่ะ เราชื่อมะม๊าปู คุณแม่ลูก 1 ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่บ้าน #wfh
BEFORE 5 เดือนก่อน น้ำหนัก 57
ไขมันไม่ได้ชั่ง มาชั่งครั้งแรกวันที่ 19 May
ไขมัน body fat ตอนนั้นอยู่ที่ 24.9%
มะม๊าสูง 163 cm.
อายุ 30 ปี
Now ปัจจุบันน้ำหนัก 48.05 (ชั่งให้ดูเฉย ๆ ไม่ซีเรียส)
ไขมัน body fat อยู่ที่ 18.6%
เอวเราตอนนั้น 30 ตอนนี้ 23
ต้นขาตอนนั้น 22 ตอนนี้ไม่ได้วัดค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราไม่ได้มาขายอาหารเสริม คอร์สลดน้ำหนัก ไม่ได้จะสอนวิธีลดน้ำหนักหรือออกกำลังกายใด ๆ มะม๊าไม่ใช่คนแข็งแรงที่สุด หุ่นไม่ได้ดี ไม่มีกล้าม ไม่ได้ยกเหล็กเยอะ ๆ (เพราะยังทำไม่ได้ แง) แต่มะม๊าสุขภาพดีขึ้นมากค่ะ ไม่คีโต ไม่ if ไม่ highfat อะไรทั้งนั้น
โพสต์นี้เราอยากมาเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เคยสุขภาพแย่เหมือนเรา ให้สุขภาพดีขึ้น เนื่องจากมะม๊าเคยสุขภาพแย่มากโดยเฉพาะช่วงโควิด 19 กักตัวอยู่แต่บ้าน
เรื่องหุ่นดีขึ้นนี่เป็นของแถม จุดประสงค์แรกเลยในการลองกินดีและออกกำลังกายของมะม๊าคือเราแข็งแรงขึ้น สุขภาพดีขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย หัวใจทำงานดีขึ้น มีแรงในการใช้ชีวิต ไม่โทรมหรืออ่อนเพลีย และที่สำคัญไขมันลดลง น้ำหนักไม่โฟกัสนะคะ
รูป Before คือช่วงกักตัวโควิด ย้ำ !! ไม่ใช่รูปหลังคลอดลูกหรืออย่างใด ลูกเรา 2 ขวบแล้ว น้ำหนักเรากลับมาเป็นปกตินานมากแล้ว น้ำหนักปกติคือประมาณ 50-51 สมัยก่อนอะเนอะ ชั่งแต่น้ำหนัก
แล้วมาพังช่วงโควิดหนักมากกก น้ำหนักพุ่งไปจนถึง 57 KG. ไขมันคงล้นอะ ตอนนั้นไม่มีเครื่องวัดไขมัน
ร่างตอนนั้นเลยพังมาก
ก็คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ช่วงโควิดทุกอย่างมันสบาย สบายตรงที่ว่าอาหารทุกอย่างสั่งมาได้หมด การจะออกไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารก็เสี่ยงติดโรค หรือสั่งไก่ดิบหรือหมูมาก็กดในเว็บไม่ทันคนที่เค้ากักตุน ที่บ้านก็จะสั่งอะไรที่แปรรูปมาเยอะมากกก ทำมาม่ากินบ้าง กิมจิ ไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ เชื่อมั้ยว่าน้อยมากที่จะกินอะไรที่ไม่ผ่านการแปรรูป งงมั้ย…เดี๋ยวไว้มาเล่าเรื่องอาหารแปรรูปอีกทีนะ แปรรูปในที่นี้คือทุกอย่าง เช่น เราอยากกินสละ เราก็จะกินสละลอยแก้ว เราอยากกินมะม่วง เราก็จะกินมะม่วงกวน เราอยากกินกล้วย เราก็จะเลือกกล้วยทอด โดยเฉพาะช่วงดูซีรีส์เกาหลีตอนกลางคืนนะ…โอ้โห หลังจากกินข้าวมื้อเย็นแล้ว เห็นพระเอกนางเอกกินมาม่า เอ้า ! ต้มซิ รออะไร ใส่ไข่ ตามด้วยเบียร์ สั่งไก่ทอด ครบสูตรอะ เกือบทุกวัน ย้ำว่าเกือบทุกวัน
ประกอบกับพอสามีไม่ต้องไปทำงาน (งานสายการบิน) เพราะโควิด ก็เหมือนได้กินด้วยกันอะ สุดมากกกก
ตอนนั้นรู้ตัวนะว่าไม่ไหว อ้วนมาก ไม่ใช่หมูแข็งแรงด้วย หมูพังอะ แบบอุ้มลูกแล้วมีห่วงยางที่ท้องรองรับ ทำอะไรก็เหนื่อย ง่วง โทรม ผิวพรรณก็แย่ ตาก็คล้ำ ไม่อยากดูแลตัวเองอะไรทั้งนั้น
แล้วจุดเปลี่ยนมันก็มาอยู่ตรงที่ว่ามีวันนึง เราขึ้นบันได เหนื่อยมาก หอบมากกก แล้วพอถึงขั้นสุดท้าย
หน้ามืด เงยหน้ามา ตาคือมืด เหมือนตาบอดมองไม่เห็นอะไรเลย แบบตัวเย็นมากตอนนั้น กลัวตายค่ะ กลัวมาก ลูกก็ยังเล็ก นั่นแหละเราถึงรู้ว่าร่างกายเราบอกว่า หยุด สต็อป
เราก็เลยเลื่อนดูหาแรงบันดาลใจก่อน คือเนื่องจากเราไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลย แอนตี้การออกกำลังกาย 30 ปีมาแทบไม่ออกเลยจริง ๆ นะ ไม่โกหก เบ้ปาก กรอกตาบนใส่คนกินคลีน เราไม่รู้จัก BMR BMI TDEE.. นี่คือ ไม่รู้เรื่องเลย เราก็กะว่าจะทำตามไอดอลสักคน ใครก็ได้เอาวะสักวิธี เลื่อน เลื่อนไปเรื่อย ๆ ก็คือไม่ผ่าน ไม่ได้ เราทำไม่ได้ บางคนไม่กินข้าวเย็น กินไก่จืด ๆ 1 ชิ้น บางคนกินปลา บางคนกินแค่สลัด บ้างก็โยเกิร์ต กล้วย น้ำเต้าหู้ !!
คือเราไม่ได้อยากผอม เราอยากสุขภาพดี เราทำไม่ได้ เป็นแม่คนมันต้องใช้พลังเยอะมากกก แล้วที่สำคัญคือเราติดข้าว ต้องกินข้าว ก็เจออยู่ 3-4 คนที่เค้ากินข้าวทุกมื้อ แต่คือไม่ได้กินเยอะขนาดแบบครึ่งหม้ออะไรแบบนี้ กินให้สมกับพลังงานที่เราเอาออก เช่น มื้อเย็นกิน 1 ทัพพี ผัก เนื้อสัตว์ ง่าย ๆ คือครบ 5 หมู่นั่นแหละ
มาถึงวิธีของเราก็คือ ง่าย ๆ เลย เหมือนย้อนกลับไปเรียนสุขศึกษาตอนเด็ก ๆ เลย
กิน
ในช่วงเริ่มเปลี่ยน ทำกับข้าวกินเองทุกมื้อ ไม่กินข้าวนอกบ้านเลย มีบ้างเดือนละครั้งสองครั้ง ถ้าต้องพาลูกไปกินข้างนอก แต่เลือกกินนะ กินให้ครบ 3 มื้อ แต่ละมื้อ 5 หมู่ ข้าวประมาณ 1 ทัพพี ข้าวขาวปกติเลย เนื้อสัตว์มากกว่าข้าว ผักเท่าไรก็ได้ ผลไม้ระหว่างมื้อ ไม่กินเป็นโล ๆ นะ น้ำตาลขึ้นได้เหมือนกันเด้อ
ตัวอย่างอาหารที่เรากินอยู่ในรูปถัดไป จะเห็นว่าเรากินเยอะมาก และที่สำคัญเราไม่กินขนมเลย ไม่เลยยย มีชิมให้ลูกบ้าง ไม่กินนมทุกชนิดในช่วงลดไขมัน โชคดีที่เราเป็นคนไม่ติดขนมหรือชานม สิ่งที่เราชอบกินที่สุดคือ แป้งกับผงชูรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มันฝรั่งทอดกรอบ อะไรแบบนี้แหละ ที่ยากสำหรับเรา
กาแฟที่กินเป็นกาแฟดำ ไม่ใส่นม น้ำมันทำกับข้าวใช้ olive oil extra light เกลือ น้ำปลา low sodium แต่ก็ปรุงปกติ เป็นคนชอบกินเผ็ด
ออกกำลังกาย
เราว่าแต่ละคนควรหาอะไรที่ตอบโจทย์ตัวเองอะ เช่น บางคนชอบโยคะ บางคนอยากมีกล้าม บางคนเต้น อยากลีน อยากหุ่นดี อะไรก็ได้ ขอแค่ขยับตัวเถิดด
ส่วนเราอยากมีกล้ามเนื้อมากขึ้น เพราะตัวเหลวมาก ทำอะไรก็เมื่อย ไม่มีกล้ามเนื้อมาช่วยเผาผลาญอะไรเลย กินอะไรก็เลยอ้วนเป็น skinny fat ขั้นรุนแรง
เราก็ body weight ประมาณ 1 ชั่วโมง (ที่นานเพราะทำไม่ค่อยเป็น) ทำอยู่ที่บ้านช่วง 3-4 เดือนแรกยิมยังไม่เปิดเนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำ full body นะคะ ไม่ได้ออกแยกส่วน ซื้อดัมเบลมาสัก 4-5 คู่ cardio เราไม่ชอบวิ่ง เราจะเดินเร็ว อันนี้เราชอบมาก เป็นเวลาส่วนตัวเวลาเดียวที่เราจะได้ดูหนังไปด้วย ค่อย ๆ เพิ่ม 3 เดือนแรก 30 นาที แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปรับความชันขึ้นเรื่อย ๆ
ทุกคน เราจะบอกว่าตอนแรกเราทำไม่ได้เลย งงงวยมาก หาคลิปในยูทูบ ทำตามไม่ถึง 5 นาที หัวใจเต้นแรงเหมือนจะตาย HIIT นี่คือไม่ได้เลยอะ แต่เราค่อย ๆ เพิ่ม ศึกษาเรื่อย ๆ 5 นาที เป็น 6 ไป 20 นาที ไป 28 ไป 60 นาที ถูกบ้างผิดบ้างทำไปเรื่อย ๆ จะโฟกัสได้เอง
เวลาไม่กำหนดเลยอะ เราแค่อยากสุขภาพดีขึ้นทั้งชีวิต ไม่ใช่สุขภาพดีขึ้นแค่ 3 เดือน
สิ่งที่ยากที่สุดคือคนรอบข้างค่ะ บอกเลยว่าถ้าสามีไม่เอาด้วยคือยากมาก เพราะเวลาเราน้อยมากในแต่ละวัน ไม่สามารถแบ่งทำอาหาร 3 แบบ สำหรับ 3 คนได้ ฟีลเหมือนแบบเราเลิกบุหรี่แต่คนข้าง ๆ ดูด งงมั้ย (เปรียบเทียบให้ดู) เราก็บอกสามีไปเลยว่าวันนี้เราไม่ไหวแล้ว “ป๊า ไม่ไหวแล้ว สุขภาพม๊าแย่มาก เป็นแบบนี้ต่อไปม๊าตายแน่ ๆ” แรก ๆ ก็ยากหน่อย เหมือนเดินไปบอกว่าหยุดกินหมูกรอบตลอดชีวิตเดี๋ยวนี้นะ โชคดีที่สามีเข้าใจและทำอาหารให้เรากินเกือบทุกมื้อ กินเหมือนกันกับสามี แค่สามีกินเยอะกว่า แล้วก็เรื่องแบ่งเวลา เราไม่มีพี่เลี้ยง เลี้ยงลูกกันเอง 2 คน ทำอาหาร ทำงานอยู่บ้าน ล้างเอง ทำทุกอย่างเอง วันไหนคิดว่าเวลาจะไม่พอ ก็ตื่นเช้าขึ้นมาอีกค่ะ
ช่วงนี้ก็มี relax บ้าง กินข้าวนอกบ้านบ้าง กินอะไรที่มันดี ๆ แค่นั้นเอง
จบบบบบ ….. ไว้มีคนอ่านจะมาเล่าให้ฟังอีกนะ
เดี๋ยวปูจะเริ่มอัปเดตเมนูอาหารที่กินในทุกๆวัน เผื่อเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ที่คิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี
ว่าง ๆ เข้าไปดูเมนูอาหารเราได้นะคะ เผื่อชอบกินเหมือนกัน หรือกำลังหาไอเดียกับข้าวก็ได้นะ
IG : https://www.instagram.com/wikanda.k/
เราไม่ได้ขายของหรืออะไรแน่นอน เราแค่เป็นกำลังใจให้คุณแม่ลูกอ่อนทุกคน หรือคนที่อยากสุขภาพดีขึ้นขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะ โพสต์ยาวที่สุดในชีวิต รีวิวพลีชีพมาก แต่เราเข้าใจและไม่อยากให้ทุกคนรอจนสุขภาพแย่แบบเรา
นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ทำให้เห็นว่า วิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือวิธีที่เราสบายใจที่จะทำ โอเคกับการใช้ชีวิตแบบนี้ไปยาว ๆ ไม่กดดันกับตัวเลขบนตาชั่งมาก และตั้งเป้าเรื่องสุขภาพเป็นอันดับแรก ๆ แค่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกรักตัวเองมากขึ้น และเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเองโดยไม่รู้สึกฝืนใจแล้วเนอะ