ยังคงลุกลามกันอย่างต่อเนื่องสำหรับดราม่าครูอ้อยครูเงาะเกี่ยวกับประเด็นที่ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง เจ้าของหลักสูตร เข็มทิศชีวิต แจ้งจับครูเงาะและบุคคลอื่น ในข้อหาหมิ่นประมาท กรรโชกทรัพย์ 11 ล้าน และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ล่าสุดทางฝั่งครูเงาะออกเคลื่อนไหวอีกครั้ง เธอได้ทำการตั้งโต๊ะแถลงข่าวบ้างหลังจากทนายครูอ้อยได้ให้ข่าวกับสื่อโดยเรียกครูเงาะว่า “ผู้ต้องหา” และอ้างว่าครูเงาะ เลื่อนการเข้าพบตำรวจแล้วถึง 2 ครั้ง หากครั้งที่ 3 ไม่มาอีกก็จะเจอหมายจับ ทางครูเงาะได้อธิบายว่าหมายแรกที่ได้รับนั้น ในจดหมายปรากฏชื่อบริษัท เข็มทิศฯ มาแจ้งผู้ต้องหาซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่มีรายชื่อผู้ต้องหา แต่แจ้งให้ครูเงาะไปเป็นพยาน ซึ่งเป็นพยานให้ใครก็ไม่รู้ ส่วนในหมายที่2ที่ส่งมามาเป็นหมายเรียกผู้ต้องหาโดยได้มีการปรากฏชื่อของ นายวินัย บุญโชติ กับพวก ซึ่งทางครูเงาะก็งงว่าคุณวินัยคือใครจึงได้มีการนำชื่อไปเสิร์ชในอินเทอร์เน็ตถึงรู้ว่าเขาเป็นใคร โดยในหมายเรียกให้ไปพบวันที่ 15 สิงหาคม แล้วพอรุ่งขึ้นวันที่ 16 สิงหาคม ก็มีออกข่าวเลยว่า ออกหมายเรียกครูเงาะ 2 ครั้งแล้วไม่ไป
“ความจริงคือ วันที่ 15 ครูไปปฏิบัติธรรมในเขตบ่อทอง จ.ชลบุรี ซึ่งก็เป็นเขตที่ครูเงาะสามารถเข้าไปให้การได้เลย เพราะเขาไปแจ้งความไว้ที่บ่อทอง แต่ครูคุยกับทนายแล้ว ทนายติดธุระไปไม่ได้ ครูก็มาเช็กตารางงานของครู วันที่ 16 ครูติดถ่ายรายการไปไม่ได้อีก 17-20 ก็มีงาน ดังนั้นวันที่ 21 จึงเป็นวันเดียวที่ครูว่าง แต่จริงๆ ครูก็อยากไปให้เร็วที่สุด อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาเอาหลักฐานอะไรมาทำให้เรากลายเป็นผู้ต้องหา” ครูเงาะกล่าว
นอกจากนี้เธอยังยืนยันว่า “มั่นใจ 100% ว่าเราไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งข่มขู่ 11 ล้าน และทำไมต้อง 11 ล้าน ทำไมไม่เป็นตัวเลขกลมๆ แถมมีทนายท่านหนึ่งบอกด้วยว่าขบวนการนี้ทำกัน 20 คน ซึ่งถ้าเอามาหารกับเงิน 11 ล้าน ได้คนละ 5.5 แสนบาท ถามว่ามันคุ้มเหรอ ครูหิวเงินขนาดนั้นเหรอ”