มีผลวิจัยกล่าวถึงกลุ่มคน เจนวาย ที่มักมีค่านิยมเพิ่มสินทรัพย์อย่างรวดเร็ว โดยเกินความสามารถทางการเงินของตน จึงเป็นเหตุก่อหนี้สูงถึง 2.13 ล้านล้านบาท ซึ่งระยะเวลาการใช้หนี้สิ้นนั้นอาจเลยวัยจนถึงช่วงวัยเกษียณ
กลุ่มคนเจนวาย เป็นช่วงที่เกิดในปี พ.ศ.2523-2538 หรืออายุประมาณ 22-35 ปี ซึ่งกลุ่มนี้เกิดมาในช่วงกระแสของการบริโภคนิยม มีการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟื่อย ไม่มีการวางแผนทางการเงิน และสามารถเข้าถึงช่องทางการเงินได้ง่าย..และสิ่งที่ตามมาคือ รายได้ไม่พอรายจ่าย จนทำให้สถานการณ์กลุ่มหนี้ในปัจจุบันกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตในอนาคต
ข้อมูลบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ เครดิตบูโร พบว่า ในไตรมาส 1/2560 คนเจนวาย 5.24 ล้านคน มีหนี้รวมกันสูงถึง 2.13 ล้านล้านบาท พบประวัติผิดนัดชำระหนี้ 1.1 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุ 29 ปี พบว่ามีหนี้สินต่อคนอยู่ที่ 150,000 บาท ในจำนวนนี้ 20% เป็นหนี้เสีย
ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ นายสุรพล โอภาสเสถียร บอกว่า สาเหตุที่ทำให้คนเจนวาย มีหนี้เร็ว และยอดหนี้สูง เพราะ ไลฟ์สไตล์ ที่เปลี่ยนไปตามการเติบโตของสังคมเมือง โดยเฉพาะพัฒนาของเทคโนโลยี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวเร่งพฤติกรรมการ ในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และช่องทางการเงินที่ง่ายที่สุดคือ บัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ที่แต่ละธนาคาร ต่างก็แข่งออกโปรโมชั่นมากมายเพื่อตอบสนองลูกค้าในยุคปัจจุบัน
ตัวเลขล่าสุดของแบงก์ชาติ พบว่า หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงถึง 80% ของ จีดีพี ประเทศ และช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังพบว่าหนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจาก 3 สาเหตุหลักคือ 1.อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ 2.มาตรการโครงการภาครัฐที่ผ่านมาไม่ว่าจะเรื่องรถ หรือบ้าน เป็นการกระตุ้นคนที่ไม่พร้อมให้ก่อหนี้ และ 3.การออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ทำการตลาดเพื่อให้คนเข้าถึงง่าย และสะดวกมากขึ้นขณะเดียวกันการอนุมัติบัตรเครดิตใหม่ให้กับลูกค้าในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านใบ ในจำนวนนี้ มี 1 ล้านใบหรือ 50% ออกให้คนเจนวายเพื่อเป็นเครื่องมือในการจับจ่ายใช้สอย
โดยตัวเลขหนี้สินต่อคนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2554 ประชาชนมีหนี้ต่อคนเฉลี่ย 70,000 บาท และในปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 150,000 บาท และยังพบว่าในระบบเครดิตบูโรมีลูกหนี้ค้างชำระหนี้ 20 ล้านคน หรือคิดเป็น 30% ของประชากร 60 ล้านคน
ซึ่งคนอายุน้อยเริ่มเป็นหนี้เร็วเป็นหนี้เสียเร็วภาพต่อไปคือ คนอายุ 55 ปี อีก 5 ปีเกษียณรายได้จะต้องหายไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเขาควรจะมีหนี้ลดลง แต่กลับพบว่าหนี้ยังเยอะอยู่ดังนั้นชีวิตหลังเกษียณเรียกว่าถึงวาระสุดท้ายของชีวิตก็ยังมีหนี้ ซึ่งเราไม่อยากเห็นภาพนั้น”
คนเจนวายเป็นวัยที่เติบโตมากับกระแสการบริโภคนิยมกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายโดยขาดความระมัดระวัง ซึ่งส่วนใหญ่การก่อหนี้ของคนกลุ่มนี้นอกจากหนี้จากการบริโภค อุปโภคแล้ว ยังพบว่าความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน ก็ทำให้การตัดสินใจเป็นหนี้เร็วและง่ายขึ้นด้วย จึงถือเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับความรู้ในเรื่องวินัยทางการเงินมากที่สุดเพื่อเตรียมการเข้าสู่วัยเกษียณมิเช่นนั้นจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในวันชราที่ต้องแบกรับทั้งภาระหนี้สินและการดูแลตนเองหลังเกษียณจากงานประจำ