คุณแม่หลายท่านที่ชอบกินชานมไข่มุกเป็นประจำ ก็คงจะเกิดความสงสัยกันใช่ไหมว่าเมื่อตั้งครรภ์จะกินชาไข่มุกได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้เราก็มีคำตอบมาให้คุณแม่ได้ทราบกันแล้ว ดังนั้นไปดูกันเลยดีกว่าว่ากินได้ไหม และจะมีผลเสียอะไรต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์หรือไม่
คนท้องกินชาไข่มุกได้ไหม
ชาไข่มุก มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณที่ค่อนข้างมาก ทำให้เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของใครหลายคน ด้วยความอร่อยของชาบวกกับความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกับไข่มุกหนึบๆ ทำให้ใครก็อดใจไม่ไหว รวมไปถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ คงต้องอยากกินชาไข่มุกบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งคนท้องสามารถกินได้ แต่ต้องกินในปริมาณที่จำกัด เพราะหากกินมากเกินไป ก็อาจเกิดผลเสียตามมาได้นั่นเอง
ในชาไข่มุก มีส่วนประกอบอะไรบ้าง
ชาไข่มุก มีส่วนประกอบดังต่อไปนี้
1.น้ำตาล
ส่วนประกอบหลักที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทราย ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ควรหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เพราะน้ำตาลมีส่วนทำให้อ้วนและเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้อีกด้วย แต่ถ้าอยากกินจริงๆ ก็ให้กินแบบน้ำตาลน้อย โดยอาจจะใส่น้ำเชื่อมให้น้อยลงนั่นเอง
2.นมข้นหวานและครีมเทียม
ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยปรุงแต่งรสชาติและกลิ่นของชาไข่มุก ซึ่งหากใส่ในปริมาณมากเกินไป ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่อร่อย แต่ทำลายสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง ไม่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์
3.ไข่มุกจากแป้งมันสำปะหลัง
ก้อนแป้งมันสำปะหลังที่ผ่านกระบวนการแปรรูปแล้วนำไปต้มให้หนืด เต็มไปด้วยสารอาหารจำพวกแป้ง ซึ่งไม่ควรได้รับในปริมาณที่มากเกินไปสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
4.สารคาเฟอีน
ในชาไข่มุกมีคาเฟอีน ซึ่งจะทำให้รู้สึกตื่นตัว หากบริโภคในปริมาณที่มากอาจทำให้ใจสั่นได้ คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรบริโภคมากเกินไป
ผลเสียจากการรับประทานชาไข่มุก
การรับประทานชาไข่มุกมากเกินไป จะมีผลเสียอย่างไรบ้าง ก็ต้องมาดูกันเลย
1.เด็กในครรภ์เติบโตช้า
เนื่องจากคาเฟอีนในชาไข่มุก จะทำให้การเติบโตของทารกช้าลง และไปขัดขวางพัฒนาการหลายๆ ด้านอีกด้วย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลเสียได้อีกมากมายเลยทีเดียว
2.อาจเกิดภาวะโรคแทรกซ้อนในคุณแม่
การกินชาไข่มุกที่มีน้ำตาลสูง น้ำตาลคือปัจจัยหลักของการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ เพราะฉะนั้นควรจำกัดการกินชาไข่มุก หรือถ้าเป็นไปได้ ควรงดกินช่วงตั้งครรภ์จะดีกว่า
การทานชาไข่มุก สามารถทานได้ในปริมาณที่ไม่เป็นผลเสียต่อคุณแม่และเด็กในท้อง แต่ถ้าให้ดีควรงดไปก่อนดีกว่า หลังคลอดแล้วค่อยกลับมากินอีกนั่นเอง