“ ยามแรกรัก น้ำต้มผัก ยังว่าหวาน พอเริ่มนาน น้ำตาลทราย ยังว่าขม ” ประโยคนี้ใช้ได้กับคู่รักเกือบทุกคู่ เมื่อแรกคบกันใหม่ๆ ก็เอาใจกันสารพัด ต่างคน ต่างชูแต่ข้อดีของตัวเองให้อีกฝ่ายเห็น แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ เริ่มสนิทกัน เริ่มชินชากัน ก็เริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ต่างฝ่ายก็ต่างแสดงความรู้สึกตรงๆ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการแตกร้าวขึ้นมาได้
และหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาก็คือคำพูด บางครั้งเราพูดเพื่อให้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่อาจสร้างความร้าวฉานมากกว่าเดิม ใครยังไม่รู้ว่า 7 ประโยคต้องห้ามสำหรับคู่รักคืออะไร รีบไปเช็คด้านล่างกันเลยจ้า
1. “ บอกแล้ว.. ”
เวลาที่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น หรือทะเลาะกันทีไร ก็มักจะมีประโยคนี้โผล่ขึ้นมาทุกที “ ฉันบอกแล้ว ” ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร บางคนก็คิดว่าก็บอกแล้วจริงๆ อ่ะ หรือติดนิสัยมา แต่จริงๆ แล้วขอบอกเลยว่า ประโยคนี้ปล่อยให้แค่เด็กเล็กๆ เขาพูดกันก็พอ
การที่ฝ่ายไหนมีประโยคนี่ติดปาก มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงนิสัยที่ไม่โต และไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย แถมส่อความคิดว่าไม่เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย และยิ่งใครชอบพูดบ่อยๆ ล่ะก็ยิ่งแย่เลยนะ
วิธีที่ดีคือควรจะเลิกติดนิสัยนี้ เวลามีปัญหาควรจะแสดงความเห็นอกเห็นใจกัน และช่วยแสดงความคิดเห็น ที่ไม่ใช่การตอกย้ำให้คนอื่นดูโง่ ด้วยคำว่า “ ฉันบอกแล้ว ” นะจ๊ะ
2. “ เธอทำแบบนั้นไม่ได้นะ ”
นี่ก็เช่นกัน ประโยค “ อย่าทำแบบนั้น อย่าทำแบบนี้ ” ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ก็พอ การสั่งสอนแบบพ่อแม่ไม่ควรเอามาใช้กับคนรักเด็ดขาด
ถึงแม้ว่าบางครั้งเราอยากจะห้ามนิสัยอะไรบางอย่างของอีกฝ่าย อย่างการเอาเงินไปช้อปรองเท้าเยอะเกิน เสียเงินให้เกมเยอะไป อะไรแบบนี้ ถึงแม้จะอยากห้าม ก็อย่าห้ามตรงๆ ด้วยคำว่า “ อย่าทำ ” เด็ดขาด เพราะเราไม่ใช่พ่อแม่ การพูดแบบนั้น เหมือนเป็นคนชอบบังคับ และดูควบคุมพฤติกรรมของอีกฝ่ายเกินไป
หากเราอยากแก้ปัญหาอะไร ควรจะชวนกันคุยปรึกษา ด้วยคำพูดซอฟต์ๆ หรือใช้จุดมุ่งหมายอย่างอื่นล่อเอาจะดีกว่าห้ามโต้งๆ นะจ๊ะ
3. “ เธอจะอ่อนไหวไปแล้ว ” / “ ใจเย็นน่า ”
เวลาที่อีกฝ่ายคิดมาก หรืออ่อนไหวกับอะไรบางอย่างอยู่ การบอกให้ “ เลิกคิดมาก ” หรือ “ ใจเย็น ” จะยิ่งทำให้คนคนนั้น รู้สึกอ่อนไหวมากขึ้นอีก 10 เท่า
เวลาที่เราบอกว่า “ เธอกำลังทำให้เรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่นะ ” มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเฟลแค่นั้นแหละ
สิ่งที่ต้องจำคือ คนเราเวลารู้สึกยังไง ก็จะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เราจะไปพยายามพูดให้มันดูเล็กขึ้นก็มีแต่จะทำให้รู้สึกแย่ เหมือนไม่ได้รับการแก้ไข ทางที่ดีควรจะทำความเข้าใจความรู้สึกของเขา ให้เขาได้ระบาย แล้วค่อยชวนคุยให้เขารู้สึกดีขึ้น ตอนที่อารมณ์ดีแล้วดีกว่าจ้า
4. “ เธอก็…ตลอดอ่ะ ” / “ เธอไม่เคย…เลยนะ ”
ประโยคแบบนี้ แค่ฟังก็เป็นแง่ลบแล้ว ถึงแม้ว่าบางครั้งเราอาจจะรู้สึกอยากเรียกร้องอะไรก็ตาม แต่การใช้คำพูดเหล่านี้ ถือเป็นการกล่าวหา กล่าวโทษอีกฝ่ายโดยไร้เหตุผล
พยายามอย่าไปโฟกัสกับนิสัยไม่ดีของอีกฝ่าย ที่เรายึดติด และเชื่อแบบฝังใจอยู่ฝ่ายเดียว เพราะมันจะเป็นการสะท้อนว่าคุณมองเห็นเขาในแง่ไหน ซึ่งจะยิ่งทำให้น่ารำคาญใจทุกครั้งที่ได้ยิน สิ่งที่ควรทำคือโฟกัสกับสิ่งที่เราอยากให้ความสัมพันธ์ดีเถอะเนอะ
5. “ ถ้าเธอรักเราจริง เธอต้อง…. ”
ประโยคแบบนี้แค่ใครได้ยินก็รู้สึกกดดันจะแย่แล้ว ทั้งที่จริงๆ แล้ว ไม่มีใครที่ควรจะได้รับความรู้สึกกดดันให้ทำอย่างนู้น ให้ทำอย่างนี้ เพื่อพิสูจน์ความรักเลยสักกะนิด
ถ้าต้องใช้ประโยคนี่เพื่อเรียกร้องสิ่งที่ต้องการโดยเอาความรักมาอ้างล่ะก็ มันไม่ใช่ความรักหรอก มันคือความเห็นแก่ตัว และถ้าคุณรักเขาจริง จะไม่จำเป็นต้องกดดันเขาเลย
6. “ ไม่แคร์ ”
ถ้าเกิดคำนี้เผลอหลุดออกจากปากไปล่ะก็ จะเป็นการประกาศว่าคุณเลิกใส่ใจเขา เลิกแคร์เขา ซึ่งความเอาใจใส่เป็นสิ่งที่ควรมีในคู่รัก ซึ่งถึงแม้คุณจะพูดเพื่อประชด หรือไม่ได้บอกตรงๆ ว่าจะเลิกใส่ใจ แต่มันก็เป็นการสร้างความรู้สึกแบบนั้นให้อีกฝ่าย
และเมื่อความรู้สึกเขากลายเป็นแบบนั้นแล้ว ก็อย่ามาโทษทีหลัง ถ้าเขาจะหนีไปอยู่ในอ้อมแขนของคนอื่นนะ
7. “ เอาเหอะ ”
เวลาที่เรารู้สึกรำคาญ กับพฤติกรรมบางอย่าง หรือเวลาที่อีกฝ่ายพูดอะไรออกมา แล้วเราก็บอกว่า “ เอาเหอะ ” ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงรำคาญ หรืออ่อนโยน แต่ยังไงมันก็คือประโยคที่หยาบคายต่อคนรักอยู่ดี
ถ้าคุณจะติดนิสัยพูดคำนี้ล่ะก็ อย่าลืมนะว่า ถ้าคุณไม่อยากฟัง ก็มีคนอื่นรอฟังแฟนคุณอยู่นะ
และนี่คือ 7 คำพูดต้องห้ามสำหรับคู่รัก ซึ่งหลายๆ คู่ เมื่อสนิทกันแล้วน่าจะเผลอพูดกันบ่อย โดยไม่รู้ว่าทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก และเสี่ยงต่อการเลิกราขนาดไหน ใครที่รู้แล้วต้องพยายามเลี่ยงนะจ๊ะ เปลี่ยนมาใช้ ขอบคุณ / ขอโทษ / เราเข้าใจเธอนะ ให้บ่อยๆ กว่า 7 ข้อด้านบน แล้วคู่ของคุณจะมีความสุขแน่นอนจ้า