สายชาร์จไอโฟนเป็นอุปกรณ์สำคัญที่หลายคนใช้เป็นประจำทุกวัน แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ สายชาร์จขาด ชำรุด หรือพังเร็ว ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง หากต้องการให้สายชาร์จไอโฟนของคุณใช้งานได้นานขึ้น ลองทำตาม 5 เคล็ดลับเหล่านี้
1.หลีกเลี่ยงการพับงอสายชาร์จไอโฟนบ่อยๆ
ปัญหาสายชาร์จขาดส่วนใหญ่มักเกิดจากการพับงอที่หัวสายหรือโคนสายเป็นประจำ การม้วนสายแบบแน่นเกินไปหรือเสียบชาร์จขณะใช้งานมือถืออาจทำให้สายเกิดการหักงอและเสียหายเร็วขึ้น วิธีป้องกันคือ
- ใช้ที่เก็บสาย หรือ ที่รัดสายซิลิโคน เพื่อลดแรงดึงที่หัวสาย
- เสียบและถอดสายชาร์จไอโฟนอย่างระมัดระวัง อย่าดึงที่สายโดยตรง ควรจับที่หัวปลั๊กแทน
2.หลีกเลี่ยงการใช้สายชาร์จไอโฟนของปลอม
สายชาร์จไอโฟนที่ไม่ได้รับรองมาตรฐาน MFi (Made for iPhone) อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมหรือชาร์จไฟได้ไม่เสถียร ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้สายชาร์จพังเร็ว แต่ยังส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย
- เลือกสายชาร์จที่ได้รับมาตรฐาน MFi จาก Apple เพื่อความปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงสายชาร์จราคาถูกเกินไป เพราะวัสดุอาจไม่ได้คุณภาพ
3.จัดเก็บสายชาร์จอย่างถูกวิธี
หลายคนมักเก็บสายชาร์จไอโฟนผิดวิธี เช่น พันสายรอบอะแดปเตอร์แน่นเกินไป หรือม้วนสายในลักษณะที่ทำให้เกิดรอยพับ ซึ่งเป็นสาเหตุให้สายชาร์จเสื่อมสภาพเร็วขึ้น วิธีที่ถูกต้องคือ
- ม้วนสายเป็นวงหลวมๆ และใช้ที่รัดสายเก็บให้เป็นระเบียบ
- หลีกเลี่ยงการเก็บสายชาร์จในที่ร้อนหรือชื้น เช่น ในรถยนต์
4.อย่าเสียบสายชาร์จไอโฟนค้างไว้ตลอดเวลา
บางคนมีนิสัยเสียบสายชาร์จทิ้งไว้ในปลั๊กไฟหรือพอร์ต USB แม้ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งอาจทำให้สายเกิดความร้อนสะสมและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น วิธีที่ดีคือ
- ถอดสายออกจากปลั๊กเมื่อชาร์จเต็มแล้ว เพื่อลดการเสื่อมของวัสดุ
- หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้สายเสื่อมเร็ว
5.ใช้ตัวป้องกันสายชาร์จ (Cable Protector)
อุปกรณ์เสริมอย่าง Cable Protector หรือ ตัวครอบป้องกันสาย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีในการป้องกันการหักงอของสายบริเวณหัวชาร์จ ซึ่งเป็นจุดที่ขาดง่ายที่สุด
- ติดตั้งตัวป้องกันสาย เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- เลือกใช้สายชาร์จไอโฟนที่มีวัสดุหุ้มเสริม เช่น สายถักไนลอน ซึ่งทนทานกว่าสายพลาสติกทั่วไป
การดูแลสายชาร์จไอโฟนให้ใช้งานได้นานไม่ใช่เรื่องยาก หากเราให้ความใส่ใจและใช้งานอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อสายใหม่บ่อย ๆ แล้ว ยังช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ดังนั้น อย่าลืมนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้สายชาร์จของคุณอยู่กับคุณไปนานที่สุด!