การรักษาสิวที่ผิดวิธี อาจมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะบริเวณรอบจมูกและริมฝีปากด้านบน อาจจะทำให้การติดเชื้อมีการแพร่กระจายไปที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย พร้อมแนะวิธีการดูแลตนเองที่ถูกต้อง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่าหนุ่มจีนเข้าไอซียู เหตุปอดติดเชื้อเพราะบีบสิวที่ริมฝีปาก แพทย์ย้ำงดบีบสิวในบริเวณสามเหลี่ยมอันตรายนั้น ขอเรียนว่า สิวเป็นโรคของรูขุมขนและต่อมไขมันที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น กลไกของการเกิดสิวประกอบไปด้วย การที่มีการหนาตัวขึ้นของรูขุมขนส่วนบน ซึ่งก่อให้เกิดการอุดตันตามมา ต่อมไขมันมีการผลิตซีบัม (sebum) ที่มากขึ้น กระบวนการอักเสบของร่างกาย ร่วมกับเชื้อแบคทีเรียที่สำคัญที่ก่อให้เกิดโรคที่มีชื่อว่า Cutibacterium acnes โดยมีปัจจัยทางด้านกรรมพันธุ์และฮอร์โมนมาเกี่ยวข้องด้วย
อาการของสิวพบได้ทั้งแบบที่ไม่มีการอักเสบที่เรียกว่าสิวอุดตัน และแบบสิวอักเสบที่จะเห็นลักษณะเป็นตุ่มแดง ตุ่มหนองหรือสิวอักเสบขนาดใหญ่ที่เรียกว่า สิวหัวช้าง ตำแหน่งที่พบมากที่สุดของสิวคือบริเวณใบหน้า นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่พบได้เช่น หลัง ไหล่ หน้าอกและคอ การรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธีโดยเฉพาะการบีบแกะสิว อาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนส่วนมากเมื่อมีสิวมักจะแสวงหาวิธีในการที่จะทำให้สิวหายเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อยาต่างๆ หรือเวชสำอางมาใช้เอง การพยายามขัดถูแรงๆ การใช้เครื่องสำอางมาปกปิดสิว และมักจะมีการแกะ หรือพยายามจะบีบสิว เพราะเชื่อว่าจะสามารถทำให้สิวหายเร็วขึ้นได้
การรักษาที่ไม่ถูกวิธีโดยเฉพาะการบีบแกะสิวนี้เองที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น อาจจะทำให้สิวมีการอุดตันหรืออักเสบติดเชื้อมากยิ่งขึ้น มีโอกาสเกิดรอยแดงหรือรอยคล้ำหลังเป็นสิวมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสของการเกิดแผลเป็นตามหลังการเป็นสิว ทั้งแผลเป็นชนิดที่เป็นหลุมสิวและแผลเป็นนูนได้มากขึ้น ที่สำคัญคือ เมื่อมีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบจมูกและริมฝีปากด้านบน อาจจะทำให้การติดเชื้อมีการแพร่กระจายไปยังหลอดเลือดดำของใบหน้า และมีการแพร่กระจายของเชื้อไปที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายต่อไป โดยเฉพาะเข้าไปภายในสมอง ทำให้มีอาการมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตา ตามัว หรืออาจรุนแรงถึงขั้นสับสน ชักและหมดสติได้ โดยการเกิดการกระจายของเชื้อมีโอกาสพบได้มากขึ้นในคนที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันที่ไม่ดีอยู่เดิม
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การรักษาสิวที่ถูกวิธี ร่วมกับการงดแกะเกาขัดถู จึงมีความสำคัญต่อการรักษาสิวมาก ยาที่ใช้ในการรักษามีหลายชนิดทั้งยาทาและยารับประทาน ซึ่งการเลือกใช้ยาจะขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของโรค ปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากการใช้ยาและการงดบีบแกะสิวที่คนเป็นสิวจะต้องคำนึงถึงคือ ควรล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนๆ วันละ 2 ครั้ง ไม่ควรล้างหน้าบ่อยจนเกินไป ไม่ควรขัดถูบริเวณที่เป็นสิวด้วยความรุนแรง หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองต่างๆ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันมากขึ้น ทั้งนี้ การดูแลรักษาที่ถูกต้อง และการพิจารณาเลือกใช้ยาที่เหมาะสมจะส่งผลถึงประสิทธิภาพและความสำเร็จในการรักษาเป็นอย่างมาก