เชียงใหม่ จังหวัดยอดฮิตที่ใครๆ ก็อยากเดินทางไปท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติ ไหว้พระเสริมสิริมงคล กินอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ หรือแม้การได้นอนพักชิลๆในที่พักวิวสวยๆ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนปราถนา จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในช่วงวันหยุดเชียงใหม่จึงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี? วันนี้เรารวบรวมที่เที่ยวเชียงใหม่หลากหลายสไตล์มาแนะนำกันค่ะ
ที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ต้องมีอยู่ในทริปเลยคือการไปไหว้พระเสริมสิริมงคล ซึ่งที่เชียงใหม่มีวัดดังๆอยู่มากมายการได้ไปไหว้พระธาตุประจำวันเกิดก็เป็นสิ่งที่นักเที่ยวสายบุญต้องไม่พลาด นอกจากนี้แล้วคุณยังจะได้ชมความงดงามทางศิลปะอีกด้วย
[ไหว้พระเชียงใหม่]
1. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
มาเริ่มกันที่การเดินทางไปสักการะ “พระธาตุดอยสุเทพ” ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ภายในเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุอยู่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่มาช้านาน อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีมะแมด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นมาชมความงดงามขององค์เจดีย์ พร้อมกับชมทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองเชียงใหม่ได้ โดยสามารถเดินขึ้นบันไดนาค 300 ขั้น เพื่อไปยังวัด หรือจะเลือกใช้บริการรถกระเช้าขึ้น-ลงดอยสุเทพ ก็ได้ตามสะดวก
ที่ตั้ง : ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น.
2. วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดสำคัญคู่เมืองจอมทองและผู้เกิดปีชวดควรไปสักการะสักครั้ง เพราะเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุศรีจอมทอง” อันเป็นพระธาตุประจำปีชวด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระทักษิณโมลีธาตุ (พระธาตุส่วนที่เป็นพระเศียรเบื้องขวาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ตามประวัติเล่าว่า พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นผู้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ดอยจอมทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 218
ปัจจุบันพระธาตุถูกบรรจุไว้ในพระโกศ 5 ชั้น ตั้งอยู่ภายในพระวิหารจตุรมุข
ที่ตั้ง : อยู่ที่ถนนเชียงใหม่-ฮอด ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 053 342 184
เว็บไซต์ : www.watchomtong.org
เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
3. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นวัดหนึ่งที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน โดย “พญาผายู” กษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์มังราย ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ พร้อมทั้งพระเจดีย์สูง 24 ศอก เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของ “พญาคำฟู” พระราชบิดา
ภายในวัดมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร ชาวบ้านเรียกกันว่า “พระพุทธสิหิงค์” (ศิลปะเชียงแสน) เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์และชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะโรงอีกด้วย
ที่ตั้ง : บริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
4. วัดพระธาตุดอยคำ
ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของอุทยานราชพฤกษ์ หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเชียงใหม่ ที่นี่นอกจากจะไปไหว้พระธาตุดอยคำแล้ว ผู้คนมักเดินทางไปสักการบูชา “หลวงพ่อทันใจ” ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา เพราะขึ้นชื่อกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องโชคลาภ การงาน การค้า และการเสี่ยงโชค ดูได้จากกองดอกมะลิที่ผู้คนนำมาใช้เป็นเครื่องแก้บนหลังจากที่พรของตนเองสำเร็จได้ดังหวัง ว่ากันว่าคนที่เดินทางมาขอพรกับหลวงพ่อทันใจที่นี่โดยรวมแล้วสำเร็จ 90% จะมีเพียง 10% เท่านั้นที่ไม่สำเร็จ โดยจะต้องมีข้อแม้ว่าเวลาอธิษฐานต้องระบุดอกมะลิให้ชัดเจน ว่าจะถวายกี่พวง เอ่ยชื่อ-นามสกุลให้ชัด และขอสองสามเรื่องพร้อมกันไม่ได้ อ๊ะๆ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณนะ
ที่ตั้ง : ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ (ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่
5. วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
อีกหนึ่งวัดที่งดงามและต้องไปสักการะ สร้างขึ้นในสมัยพญามังราย ราวปี พ.ศ. 1839 เพื่อให้ฝ่ายอรัญวาสีจำพรรษา ต่อมาพญากือนา ทรงสร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อให้พระมหาเถระจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสสนากรรมฐาน อุโมงค์นี้มีลักษณะเป็นกำแพงภายใน เป็นทางเดินหลายช่องทะลุกันได้ ภายในอุโมงค์นั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แต่ปัจจุบันค่อนข้างรางเลือนไปมากตามกาลเวลา
ส่วนด้านบนอุโมงค์เป็นเจดีย์ล้านนาเก่าแก่ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าสร้างประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 20 มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆัง มีชั้นทรงกลมประมาณ 3 ชั้นเหมือนกลีบบัวซ้อนกันอยู่ ด้านบนมีปลียอด ส่วนด้านหน้าอุโมงค์มีเศียรพระพุทธรูปหินสลัก สกุลช่างพะเยา พ.ศ. 1950-2100 นอกจากนี้บริเวณวัดอุโมงค์ยังเป็นสวนพุทธธรรมที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพรรณ
ที่ตั้ง : ถนนสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่
เว็บไซต์ : www.watumong.org
6. วัดเชียงมั่น
หนึ่งในวัดสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งยังเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองอีกด้วย วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของเชียงใหม่ คือ “พระเสตังคมณี” หรือ “พระแก้วขาว” อันเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น วิหารหลวง, เจดีย์ช้างล้อม, ศิลาจารึกวัดเชียงมั่น และหอครูบาศรีวิชัย เป็นต้น
ที่ตั้ง : ถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
7. วัดบ้านเด่นสะหลีศรีเมืองแกน
วัดดังในอำเภอแม่แตง เดิมวัดแห่งนี้เป็นเพียงวัดเล็กๆ แต่ด้วยบารมีของท่านครูบาเจ้าเทือง ซึ่งมีลูกศิษย์ให้ความเคารพมากมาย มีผู้มีจิตศรัทธานำเงินมาถวายเป็นปัจจัยในการทำบุญเป็นจำนวนมาก และได้มีการนำเงินเหล่านั้นมาใช้ในการปรับปรุงก่อสร้างวัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกนใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2534 จุดเด่นของวัดนี้เห็นจะอยู่ที่ความวิจิตรตระการตาของสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั้งในส่วนของอุโบสถ, หอไตร, หอกลอง, วิหารเสาอินทขิล, กุฏิไม้สักทองทรงล้านนา, พระวิหาร และสถูปเจดีย์ ที่แฝงไว้ด้วยคติธรรมให้เหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้เข้ามาเรียนรู้และศึกษา
ที่ตั้ง : ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
8. วัดโลกโมฬี
วัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่ เป็นวัดที่งดงามตามแบบฉบับของศิลปะล้านนา ภายในวัดมีศาสนสถานสำคัญมากมาย เช่น “เจดีย์ทรงปราสาท” มีประติมากรรมรูปเทวดาที่ประดับตามมุมของเจดีย์, “วิหารหลวง” เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่ภายหลังการบูรณะวัด เป็นศิลปะแบบล้านนา แฝงไว้ด้วยความงดงามและประณีต ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ นามว่า “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” และ “หอมณฑปพระนางเจ้าจิรประภามหาเทวี” ภายในประดิษฐานรูปหล่อพระนางจิรประภามหาเทวี เป็นต้น
ที่ตั้ง : ถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เว็บไซต์ : www.watlokmolee.com
9. วัดศรีสุพรรณ
วัดอีกแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ที่เราชวนไปไหว้พระ เพราะที่นี่มีพระอุโบสถสุดอลังการที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2043 ในรัชสมัยของพระเจ้าเมืองแก้ว ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปาฏิหาริย์ (พระเจ้า 500 ปี) เดิมทีอุโบสถหลังนี้ชำรุดทรุดโทรมมาก ภายหลังได้มีการสร้างอุโบสถใหม่ขึ้นเป็นอุโบสถเงิน โดยมีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ มีโครงสร้างก่ออิฐถือปูนและมีการประดับตกแต่งลวดลายทุกส่วนด้วยอะลูมิเนียมและเงิน พร้อมมีการสลักลวดลายภาพสามมิติที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศิลป์ปริศนาธรรม คำสอนในทางพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ของวัดและชุมชน เรียกได้ว่าเป็น “อุโบสถที่ทำจากเงินและอะลูมิเนียมหลังแรกของโลก” เลยก็ว่าได้
ที่ตั้ง : ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.
[ที่เที่ยวเชียงใหม่ธรรมชาติ]
10. ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 2,565 เมตร จึงเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเมืองไทย ซึ่งใครต่อใครก็อยากได้ไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ดอยอินทนนท์ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศจึงหนาวเย็นตลอดทั้งปี ถือเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ทุกคนจะต้องไปเช็กอิน
นอกจากนี้บริเวณโดยรอบดอยอินทนนท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน, เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา, น้ำตกสิริภูมิ, น้ำตกแม่ยะ, น้ำตกวชิรธาร, พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล, พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ เป็นต้น
ที่ตั้ง : อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทรศัพท์ 053-286729 (บริการข้อมูลท่องเที่ยว, จองที่พัก)
12. ดอยผ้าห่มปก
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เป็นยอดดอยสูงอันดับ 2 ของเมืองไทย ด้วยความสูง 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณยอดดอยเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย อีกทั้งตลอดเส้นทางการขึ้นไปยังยอดดอยนั้น ยังได้พบเห็นพืชพรรณต่างๆ สัตว์ป่า และดอกไม้ป่าหลากหลายชนิด ซึ่งหากต้องการดื่มด่ำกับที่นี่ให้เต็มที่ ไม่ควรพลาดการนอนกางเต็นท์บนยอดดอย เพราะสามารถนอนชมดวงดาวได้อย่างโรแมนติก ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ นอกจากนี้ยังได้มองเห็นสายหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าตรู่อีกด้วย การจะขึ้นไปยังยอดดอยต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเสมอ
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : 0 5345 3517
13. ม่อนแจ่ม
ส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหอย บริเวณด้านบนของม่อนแจ่มสามารถมองเห็นภูเขาสูงใหญ่โดยรอบ พร้อมกับสายหมอกได้อย่างสวยงาม อีกทั้งชาวบ้านในพื้นที่และเจ้าหน้าที่โครงการหลวงหนองหอย ยังช่วยกันปรับปรุงทัศนียภาพของม่อนแจ่มให้มีความสวยงามไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาพรรณ ให้บานสะพรั่งตลอดทั้งปี และยังทำซุ้มไม้ไผ่ริมหน้าผาม่อนแจ่ม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมวิวหรือรับประทานอาหารอย่างสบายๆ ในบริเวณใกล้เคียงยังมีแปลงผักและผลไม้เมืองหนาวให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย เมื่อผนวกกับอากาศหนาวเย็นและบริสุทธิ์ จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อน ผ่อนคลายพักสมองให้หายเหนื่อยล้า
ที่ตั้ง : ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม
เบอร์โทรศัพท์ : 08 1806 3993, 0 5381 0765 ต่อ 108
14. ม่อนจอง
อีกหนึ่งยอดดอยที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ด้วยมีลักษณะของยอดดอยที่เป็นเอกลักษณ์ ในลักษณะจั่วสามเหลี่ยม ภาษาเหนือเรียกว่า “จ๋อง” เมื่อรวมกับคำว่า “ม่อน” ที่แปลว่า “ดอย” จึงกลายมาเป็นม่อนจอง ความตื่นตาตื่นใจของม่อนจองก็คือการที่ไหล่เขาทั้งสองด้านนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยด้านทิศตะวันออกจะเป็นป่าเขาทึบ ซึ่งไหล่เขาจะค่อยๆ เทลาดลงไป ส่วนทางด้านทิศตะวันตกจะเป็นหน้าผาตัดสูงชัน ทำให้เกิดทางเดินเล็กๆ แคบๆ สุดหวาดเสียว เป็นเส้นทางยาวที่เดินไปสู่ยอดเขาทางด้านทิศใต้ เรียกว่า “หัวสิงห์” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหัวสิงห์ โดยที่จุดนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตร นอกจากลักษณะของดอยที่สวยแปลกตาแล้ว ที่นี่ยังมีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมทั้งกุหลาบพันปีที่เชื่อกันว่าเป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย
เบอร์โทรศัพท์ : ศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง โทรศัพท์ 08 3321 4811
15. ดอยหลวงเชียงดาว
อีกหนึ่งยอดดอยที่มีความโดดเด่นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย มีความสูง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย การที่จะพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากร่างกายจะต้องแข็งแรง พร้อมกับการเดินเท้าที่แสนยากลำบากแล้ว ใจยังต้องพร้อม ต้องสู้อีกด้วย นั่นจึงทำให้ยอดดอยหลวงเชียงดาวได้พบเจอเพื่อนใหม่เพียงวันละไม่กี่คนเท่านั้น แต่ถ้าหากใครได้ขึ้นไปจนถึงยอดดอย ก็จะพบว่ามันคุ้มค่ากับความเหนื่อย เพราะทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นได้จากยอดดอยนั้น สวยงามจนแทบอยากจะหยุดหายใจ
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางไปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว ต้องทำการขออนุญาตจากทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเสียก่อน เพราะจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ที่ตั้ง : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อำเภอเชียงดาว
เบอร์โทรศัพท์ : 053 456 623, 081 111 6203
เฟซบุ๊ก : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่
16. ดอยปุย
อยู่ในเส้นทางเดียวกับวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารและพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ด้วยที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งผู้มาเยือนก็จะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวเขา พร้อมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ และสวนดอกไม้ที่อยู่บริเวณดอยปุย ซึ่งจะมีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนต้นไม้และดอกไม้ไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี มีร้านขายของที่ระลึก ซึ่งเป็นสินค้าที่ชาวบ้านทำเองด้วยมือ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านดอยปุยก็ยังมีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว หรือหากใครอยากนอนพักในบ้านพักของอุทยานก็ได้เช่นกัน
ที่ตั้ง : ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่
17. ดอยอ่างขาง
ดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยหุบเขาสีเขียวอุดมสมบูรณ์ เที่ยวชมแปลงปลูกดอกไม้ ผัก และผลไม้เมืองหนาว เดินเก็บสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากไร่แบบชิลๆ ชมแปลงปลูกชาท่ามกลางสายหมอก สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาและอากาศที่หนาวจับใจ สวรรค์บนเขาสูงที่คุณก็สามารถเอื้อมถึง
นอกจากนี้ยังมี “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยที่นี่ตั้งอยู่ในหุบเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีแปลงปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาว และแปลงดอกไม้เมืองหนาวให้ได้เที่ยวชม ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น สวนบอนไซ, เรือนไม้ดอกเมืองหนาว, โรงงานชา, แปลงบ๊วย, สวนไผ่, สวนดอกไม้ 80 ปี, แปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี เป็นต้น
ที่ตั้ง : บ้านคุ้ม หมู่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอ่างขาง โทรศัพท์ 0 5396 9489, สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทรศัพท์ 053 969 476-78
เว็บไซต์ : www.royalprojectangkhang.com
18. ขุนช่างเคี่ยน
สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หรือที่เรามักเรียกสั้นๆ ว่าขุนช่างเคี่ยน ไฮไลต์ที่ทำให้ต้องมาเยือนที่นี่ก็คือความงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่จะออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นกุมภาพันธ์ นับเป็นสวรรค์บนดินอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเชียงใหม่
นอกจากนี้ภายในสถานียังมีพื้นที่ปลูกบ๊วย ท้อ และกาแฟ ให้ได้เดินชิลหรือแวะชมกันด้วย สำหรับการเดินทางไปยังสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน แนะนำว่าไม่ควรขับรถเล็กเข้าไป เนื่องจากทางเป็นเลนเดียว และมีความชัน บางช่วงเป็นหลุมเป็นบ่อ ดังนั้นควรเป็นรถขาวชาวบ้านในพื้นที่ที่คุ้นกับสภาพพื้นที่เป็นอย่างดี
ที่ตั้ง : ถนนแม่บัวมุง ตำบลดอนแก้ว อำเภอเมืองเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : 053 222 014
19. ดอยแม่ตะมาน – สันป่าเกี๊ยะ
“ดอยแม่ตะมาน” และ “สันป่าเกี๊ยะ” ไม่ใช่ที่เดียวกันนะ แต่ทั้งสองที่นี้อยู่ในอำเภอเชียงดาว ใช้เส้นทางไปเที่ยวเส้นทางเดียวกัน และอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น ชื่อเต็มๆ ของทั้งสองสถานที่คือ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน และสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ (อยู่ในความดูแลของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
ทั้งสองจุดนี้เป็นจุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาวที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเชียงดาว โดยเฉพาะช่วงปลายฤดูหนาว ที่นี่จะมีต้นนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งดอย มียอดดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านท่ามกลางสายหมอกเตรียมรอรับแสงสีทองยามเช้า อากาศหนาวเย็น บรรยากาศเงียบสงบมากๆ มีลานกางเต็นท์และที่พักไว้รองรับ
ที่ตั้ง : ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว
เบอร์โทรศัพท์ : สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ โทรศัพท์ 0 5394 4052 และหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน โทรศัพท์ 08 9854 4014
20. ขุนวาง
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง หรือศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งดอกนางพญาเสือโคร่งเลยก็ว่าได้ โดยในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี ที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งเรียงรายเป็นแนวยาวตลอดเส้นทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาถ่ายภาพเก็บฉากประทับใจกันได้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย เช่น ชมแปลงสาธิตไม้ผลเมืองหนาว โรงเรือนดอกเบญจมาศหลากหลายสีสัน เที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งและเผ่ากะเหรี่ยง ตลอดจนศึกษาเส้นทางธรรมชาติ เดินชมน้ำตกผาดำ และดูนกอพยพและนกหายาก น่าสนใจไม่เบาเลยใช่ไหมล่ะ
ที่ตั้ง : หมู่ 10 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง เทศบาลนครเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. (ชมดอกพญาเสือโคร่งช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์)
เบอร์โทรศัพท์ : 053 114 133
เฟซบุ๊ก : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง)
21. น้ำแม่ออกฮู
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของอำเภอแม่แจ่ม มีลักษณะเป็นบ่อน้ำผุดตลอดทั้งปีจากซอกหิน มีความใสสะอาด เย็นฉ่ำ ชาวบ้านเชื่อกันว่าน้ำไหลมาจากถ้ำเชียงดาว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่นี่ หนีไม่พ้นกับการลงเล่นน้ำ เพื่อมาสัมผัสความสดชื่นและเย็นสบายแบบธรรมชาติ อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงยังมีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากมาเห็นน้ำแบบใสกิ๊ง แนะนำว่าให้มาช่วงเดือนเมษายน รับรองว่าสวยจนอยากเอาตัวลงแช่น้ำเดี๋ยวนั้นเลย
ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอวม บ้านทุ่งยาว ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
เฟซบุ๊ก : น้ำแม่ออกฮู บ้านทุ่งยาว
22. สวนสนบ่อแก้ว
สวนสนบ่อแก้ว หรือสถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบ เพื่อทำเยื่อกระดาษ โดยภายในสถานีจะพบแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสนและยูคาลิปตัสจำนวนมาก งดงามด้วยทิวสนที่ปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ภูมิอากาศของที่นี่ยังชื้นและเย็นสบายตลอดปี ทำให้ในช่วงฤดูหนาวจึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายรูปกันมากมาย ใครอยากมีรูปเอาไว้เช็กอินสำหรับการมาเที่ยวเชียงใหม่สวยๆ สักรูป ลองมาเที่ยวที่นี่กันดูนะ
ที่ตั้ง : ริมเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง กิโลเมตรที่ 36-37 อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
23. ดอยม่อนเงาะ
อยู่ห่างจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ประมาณ 2 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ที่อยากจะเห็นวิวผืนป่าของเชียงใหม่มุมสูง แถมยังสัมผัสกับความหนาวเย็น ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน และทะเลหมอกที่สวยงามแบบพาโนรามา ใครก็ตามที่อยากขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศสวยๆ แบบนี้ สามารถพักค้างคืนได้ที่โครงการหลวงม่อนเงาะ ไร่ชาลุงเดช หรือจะเป็นโฮมสเตย์แถวหมู่บ้าน ซึ่งมีให้เลือกใช้บริการหลากหลาย แต่สำหรับผู้ที่ต้องการค้างคืนบนยอดดอยม่อนเงาะ ที่นี่ไม่มีที่พักและร้านอาหาร มีแต่จุดกางเต็นท์และห้องน้ำอำนวยความสะดวกเท่านั้น
ที่ตั้ง : ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ โทรศัพท์ 095 675 3848
เฟซบุ๊ก : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ
24. ผาช่อ
ดินแดนแห่งหน้าผาหินเมื่อ 5 ล้านกว่าปีก่อน ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วาง เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมฝน จนทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปี หรือพันปีก่อนบริเวณแห่งนี้เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิง ได้เปลี่ยนสายย้ายทิศไหลผ่านไปที่อื่น บริเวณนี้จึงได้ยกตัวเป็นเนินเขาสูงตะกอน จนมีรูปร่างสวยงามแปลกตา คล้ายกับแพะเมืองผีที่จังหวัดน่าน มีขนาดสูงใหญ่ราว 30 เมตร และยังพบรังผึ้ง ขนาดใหญ่อยู่ตามหน้าผาจำนวนมาก สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่เข้าไปเที่ยวชมกับความงามปนความอะเมซิ่งเช่นนี้
ที่ตั้ง : ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติแม่วาง โทรศัพท์ 081 881 4729, 063 523 9518
25. น้ำพุร้อนสันกำแพง
แหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานของจังหวัดเชียงใหม่ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีบ่อให้แช่น้ำร้อนและแช่เท้า ล้อมรอบด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาและต้นไม้ มีให้นักท่องเที่ยวได้เลือกแบบหลากหลายบ่อ รวมถึงยังมีบ่อขนาดเล็ก สำหรับเด็กๆ ได้ลงแช่น้ำกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของน้ำพุร้อนสันกำแพง ยังมีสวนดอกไม้และสนามหญ้ากว้าง ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติล้อมรอบ บอกเลยว่าดีงามจริงๆ
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.
26. อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า
อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ใช้ในศูนย์เกษตรกรรมทหารฯ และราษฎรบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า คือ ทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ ท่ามกลางธรรมชาติงดงาม บริเวณอ่างเก็บน้ำมีหาดทรายคล้ายชายทะเล สามารถเล่นน้ำได้ แถมยังมีบริการห่วงยาง เรือพาย จักรยานน้ำให้เช่าในราคาย่อมเยา ที่นี่ยังมีซุ้มแพสำหรับตกปลาบริเวณสันเขื่อน แถมยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม
27. ป่าสนบ้านวัดจันทร์
หากเอ่ยถึงป่าสนธรรมชาติในเขตภาคเหนือ บ้านวัดจันทร์เป็นป่าสนที่สามารถเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากความสวยงามแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงที่ได้ดำรงชีพมานับร้อยปี แถมยังทำหน้าที่ดูแลรักษาผืนดินผืนป่าแห่งนี้อย่างดีเสมือนเป็นสมาชิกครอบครัวเลยก็ว่าได้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากไปชมความรื่นรมของเงาสนที่เรียงตัวอยู่สองข้างทางก็สามารถเดินเท้าหรือนำจักรยานเข้าไปปั่นได้
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา
เว็บไซต์ : www.fio.co.th
เฟซบุ๊ก : FIO Watchan – ป่าสนวัดจันทร์ อ.อ.ป.
28. เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
เดิมชื่อ “เขื่อนแม่งัด” เป็นเขื่อนที่สร้างตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อทำการชลประทานให้แก่พื้นที่เพาะปลูกในลุ่มน้ำแม่งัด
ปัจจุบันเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีความสำคัญทั้งในแง่เกษตรกรรมและการท่องเที่ยว เนื่องจากภูมิทัศน์รอบเขื่อนมีความสวยงาม มีลมพัดเย็นๆ ชวนให้ง่วงนอนได้ตลอดทั้งวัน เป็นทั้งแหล่งดูนก แหล่งชมปลามากมายหลากหลายชนิด โดยนักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารปลาได้อย่างใกล้ชิด บริเวณเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่อีกแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันพื้นที่โดยรอบยังมีที่พักและร้านอาหารบนเรือนแพไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง
29. บ้านป่าบงเปียง
ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่เที่ยวแม่แจ่มที่ห้ามพลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาสัมผัสกันสักครั้งของเมืองเชียงใหม่เลยล่ะ ด้วยความงดงามของนาขั้นบันไดบนเขาสูงที่ไร่เรียงซ้อนกันลงไปตามไหล่เขาอย่างสวยงาม พร้อมกับบรรยากาศอันเงียบสงบที่โอบล้อมรอบๆ ทำให้บ้านป่าบงเปียงน่าหลงใหล ไม่ว่าจะมาเที่ยวในฤดูกาลไหน ที่นี่ก็สวยงามน่าประทับใจ ไม่ต้องไปไกลถึงบาหลี ก็มีนาข้าวขั้นบันไดสวยตรึงใจให้ชมกัน
หากถ้าใครไปเที่ยวบ้านป่าบงเปียง โดยเข้าทางด้านวัดทุ่งยาว จะต้องผ่านนาขั้นบันไดบ้านตีนผาอย่างแน่นอน ซึ่งนาข้าวขั้นบันไดที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้บ้านป่าบงเปียง อยู่ท่ามกลางหุบเขา เราสามารถถ่ายภาพมุมสูงได้จากถนน หรือจะลงเดินไปถ่ายด้านล่างก็ได้ โดยจุดถ่ายภาพนาข้าวขั้นบันไดบ้านตีนผานี้จะมีอยู่ 2 ฝั่ง มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป หรือใครจะนอนโฮมสเตย์ในหมู่บ้านตีนผาก็ได้เช่นกัน
ที่ตั้ง : บ้านป่าบงเปียง อำเภอแม่แจ่ม
30. บ้านแม่กลางหลวง
หมู่บ้านเล็กๆ ของชาวปกาเกอะญอ ตั้งอยู่ในหุบเขาขั้นบันไดบริเวณลุ่มน้ำแม่กลางบนดอยอินทนนท์ ซึ่งความงดงามของนาขั้นบันไดเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใครๆ ก็อยากเดินทางไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่สวยงาม โดยช่วงที่เหมาะจะไปชมนาขั้นบันไดมีสองช่วง คือเดือนกันยายน-กลางตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน เพราะนาข้าวจะเริ่มเขียวขจีชุ่มฉ่ำ ส่วนปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนจะเป็นช่วงที่นาข้าวออกรวงเป็นสีทองเต็มท้องทุ่งเหลืองสวยงามมาก แถมยังมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย เรียกว่าไปพักแรมสัก 2-3 คืน ก็ถือเป็นการชาร์จพลังชีวิตได้ดีเลย
ที่ตั้ง : บ้านแม่กลางหลวง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง
31. บ้านนาเลาใหม่
หมู่บ้านของชาวเขาอันเงียบสงบ ซึ่งอยู่บริเวณเชิงเขาดอยหลวงเชียงดาว เป็นอีกจุดที่สามารถมองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างสวยงามสุดๆ ความโดดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือโฮมสเตย์ราคาหลักร้อย แต่จะได้ชมวิวระดับหลักล้านกันเลยทีเดียว เช้าตื่นมาก็ได้เห็นสายหมอกลอยละล่องอยู่กับทิวเขาเขียวๆ ยามค่ำคืนก็มีดวงดาวนับล้านลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้าให้ได้ชม อีกทั้งบรรยากาศยังเป็นส่วนตัว มีอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลอง คุ้มเกินคุ้ม
ที่ตั้ง : บ้านนาเลาใหม่ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว
32. เมืองคอง
ตำบลลับแลที่ซ่อนตัวอยู่หลังดอยหลวงเชียงดาว ที่นี่ธรรมชาติของป่าเขาสวยงามสมบูรณ์แบบ บรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส อีกทั้งยังมีนาขั้นบันไดสวยๆ ให้ได้ไปเดินเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังมีโฮมสเตย์เก๋ๆ ริมท้องนาให้ได้ไปนอนมองดาว มองหมอก รับอากาศเย็นสบายบริสุทธิ์ในราคาหลักร้อยกันอีกด้วย ถ้าอยากไปหลบพักใจพักหัวสมองสักวันสองวัน บอกเลยว่าเมืองคองเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เล่นเลยล่ะ
การเดินทางไปเยือนเมืองคอง ใช้เส้นทางเดียวกับบ้านนาเลาใหม่ มีรถสองแถวสีเหลือง สายเชียงดาว-เมืองคอง ให้บริการ สามารถขึ้นได้ที่อำเภอเชียงดาว
ที่ตั้ง : ตำบลคอง อำเภอเชียงดาว
33. ทุ่งดอกเก๊กฮวยสะเมิง
เป็นประจำทุกปีช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงทุ่งดอกเก๊กฮวย อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ กำลังออกดอกบานสะพรั่ง รอพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นทุ่งดอกเก๊กฮวยที่ชาวบ้านได้เพาะปลูกเอาไว้ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมแบบฟรีๆ
นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ถ่ายรูปสวยจนเพลินแล้ว ภายในยังมีน้ำเก๊กฮวยเย็นๆ รวมถึงยังมีเก๊กฮวยตากแห้งขาย เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวดื่มแบบชื่นใจ หรือจะซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปก็ไม่ว่ากัน แถมยังเป็นการช่วยอุดหนุนชาวบ้านอีกแรงด้วยนะคะ
ที่ตั้ง : บ้านอมลอง ตำบลแม่สาบ อำเภอสะเมิง
เบอร์โทรศัพท์ : 084 363 5688
34. ไร่ชาลุงเดช
ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ บนพื้นที่ดอยสูงมีแปลงปลูกชาที่สวยงาม เรียงรายลดหลั่นกันลงมาตามไหล่เขา พร้อมด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม โอบล้อมด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน จึงทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมไร่ชา พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีการเก็บเกี่ยวชา ชิมชา และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชาจากไร่ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด อีกทั้งยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้ง และเที่ยวชมสวนส้ม สวนกล้วยไม้ แปลงปลูกกาแฟ และพืชผลเมืองหนาวอีกด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : ไร่ชาลุงเดช
35. ชมฝูงแกะ (งานปศุสัตว์) ณ หน่วยวิจัยผาตั้ง
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ในดอยอินทนนท์ ไฮไลต์สำคัญของที่นี่นั่นคือการเฝ้าชมเหล่าฝูงแกะที่วิ่งออกมาอวดโฉม ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว ถึงแม้ว่าแกะที่นี่จะไม่ได้ถูกเลี้ยงเพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม เพราะถูกเลี้ยงเพื่อเป็นแกะเศรษฐกิจ แต่ก็สามารถเข้ามาถ่ายรูปกับฝูงแกะเหล่านี้ได้ แนะนำว่าให้มาช่วงเช้าๆ โดยชาวบ้านจะปล่อยแกะให้ออกหากินในช่วงเวลาประมาณ 09.30-10.00 น. นักท่องเที่ยวจะได้เห็นอิริยาบถน่ารักๆ ของฝูงแกะ ที่บ้างแย่งกันรุมกินอาหาร บ้างและเล็มหญ้าตามเชิงเขา นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์ที่คุณไม่ควรพลาด
ที่ตั้ง : สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ อำเภอจอมทอง (ดอยอินทนนท์)
เบอร์โทรศัพท์ : สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ โทรศัพท์ 053 286 777, 053 286 778
เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวโครงการหลวง
36. ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง
ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2521 ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานีทดลองข้าวไร่และธัญพืชเมืองหนาว มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 308 ไร่ ซึ่งมีทั้งแปลงทดลองและผลิตเมล็ดพันธุ์ ป่าต้นน้ำ สนามหญ้า แปลงไม้ดอกไม้ประดับ โดยไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมกันก็คือ “ทุ่งข้าวสาลี” โดยจะมีให้ชมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกปี ส่วนหน้าหนาวก็จะสลับไปปลูกพืชพันธุ์อื่นๆ แต่ก็ยังถือว่าน่าท่องเที่ยว เพราะวิวทิวทัศน์สวยงามและอากาศเย็นสบาย เงียบสงบ
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 10 บ้านปางดะ ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง
เบอร์โทรศัพท์ : 053-378093-4
เว็บไซต์ : smg-rrc.ricethailand.go.th
37. สตรอว์เบอร์รีสะเมิง
มาถึงเชียงใหม่แล้วผลไม้ยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดคือ “สตรอว์เบอร์รี” ลูกสีแดงหวานฉ่ำ ซึ่งถ้าจะให้ขึ้นชื่อสมกับการเดินทางมาเก็บสตรอว์เบอร์รีสดถึงเชียงใหม่ก็ต้องไปที่ “อำเภอสะเมิง” เพราะเป็นอำเภอหนึ่งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาสูง และมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้อุณหภูมิที่เหมาะต่อการปลูกสตรอว์เบอร์รี เป็นอย่างมาก ทำให้สตรอว์เบอร์รีกลายเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสะเมิงเลยทีเดียว
– ไร่สตรอว์เบอร์รีเชียงใหม่ 2560 เก็บสดจากไร่ หวานฉ่ำทุกคำ
ที่ตั้ง : สวนสตรอว์เบอร์รีในพื้นที่อำเภอสะเมิง
38. น้ำตกบัวตอง
น้ำตกที่มีลักษณะพิเศษเป็นธารหินปูนสีขาว ตั้งอยู่ภายในอุทยานน้ำตกบัวตองและน้ำพุเจ็ดสี จุดเด่นของน้ำตกบัวตองอยู่ที่มีน้ำตลอดทั้งปี ไม่เคยแห้ง และบริเวณตัวน้ำตกนักท่องเที่ยวสามารถปีนป่ายได้อย่างสบายๆ ไม่ลื่น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน มีทั้งหมดด้วยกัน 3 ชั้น โดยบางจุดที่ปีนยากๆ จะมีเชือกเอาไว้คอยจับ เป็นตัวช่วยอีกหนึ่งแรง
นอกจากความแปลกตาและความสวยงามของน้ำตกบัวตองแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะมาอีกหนึ่งจุดเช็กอิน คือ “น้ำพุเจ็ดสี” มีลักษณะเป็นบ่อน้ำพุเย็น ไหลพุ่งออกจากใต้ดินตลอดทั้งปี น้ำใสเป็นประกายสีรุ้งเมื่อต้องกับแสงพระอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นต้นน้ำของน้ำตกบัวตองอีกด้วย
ที่ตั้ง : อุทยานน้ำตกบัวตองและน้ำพุเจ็ดสี อำเภอแม่แตง
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง น้ำพุเจ็ดสี
39. จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม)
จุดชมวิวที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม บริเวณนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนขึ้นมาชมความสวยงามของทะเลหมอกและความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน สามารถมองเห็นธรรมชาติที่สวยงามของทิวเขาอันสลับซับซ้อน ซึ่งมีดอยหลวงและดอยเชียงดาวที่สูงที่สุดเป็นใจกลาง ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้กำลังบานสวยงาม ทำให้ทั่วบริเวณจุดชมวิวอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกและอบอุ่น ช่วยผ่อนคลายความหนาวที่เข้าปกคลุมอยู่รอบตัวได้เป็นอย่างดี
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง
เบอร์โทรศัพท์ : 0 5324 8491, 08 4908 1531
[ที่เที่ยวเชียงใหม่ถ่ายรูปเก๋ๆ]
40. ถนนนิมมานเหมินทร์
ที่เที่ยวเชียงใหม่สุดฮิตที่วัยรุ่นชอบมา นั่นคือ ถนนนิมมานเหมินทร์ ย่านเที่ยวชิคๆของวัยรุ่น ซึ่งนิยมมากินข้าว กินขนมหวาน จิบกาแฟกัน เพราะฉะนั้นมาถึงเชียงใหม่แล้วจะพลาดย่านนี้ไปได้อย่างไร ซึ่งตลอดถนนนิมมานเหมินทร์ ก็จะมีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ผับ บาร์ ให้เลือกไปนั่งเล่นชิลๆ มากมาย
ถ้าใครหิวในช่วงบ่ายๆ แบบนี้ ก็สามารถมาหาอาหารกินเล่น ขนมหวาน หรือกาแฟกินได้ ยิ่งถ้าใครชอบดื่มกาแฟ ถนนนิมมานเหมินทร์จะเป็นสวรรค์ของคุณเลยล่ะ เพราะที่นี่มีร้านกาแฟให้เลือกมากกว่า 20 ร้าน หรือจะเป็นขนมหวานก็มีให้เลือกกินกันอย่างจุใจ แต่แอบเก็บท้องไว้มื้อเย็นด้วยนะคะ เพราะยังมีอะไรเด็ดๆ ไว้รออีกเพียบ
ที่ตั้ง : ถนนนิมมานเหมินทร์ อำเภอเมืองเชียงใหม่
41. ฮิโนกิแลนด์ (Hinoki land)
อาณาจักรไม้ฮิโนกิแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ภายในพื้นที่กว่า 83 ไร่ ได้รับการออกแบบให้กลายเป็นเมืองจำลองแบบญี่ปุ่นขนานแท้ ประดับประดาด้วยโคมแดงขนาดยักษ์ โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ปราสาทฮิโนกิ สร้างจากไม้หอมทั้งหลัง ขนาดสูงกว่า 4 ชั้น ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศสวยๆ ของภูเขาและธรรมชาติ ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเดินเพลินจนลืมเวลา แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ แทบจะทุกตารางพื้นที่ เดินเที่ยวเล่นได้ไม่มีเบื่อ
สำหรับใครที่อยากเพิ่มความอินมากยิ่งขึ้นไปอีก ที่นี่เขายังมีชุดแต่งกายประจำชาติญี่ปุ่น ทั้งกิโมโนและยูกาตะ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เช่าอีกด้วยนะคะ มีทั้งไซซ์เด็ก ไซซ์ผู้ใหญ่ รวมไปจนถึงพร็อพต่างๆ แบบเสร็จสรรพ งานนี้ขอบอกว่าเช่าได้แบบไม่จำกัดชั่วโมง ใส่เดินเล่นถ่ายรูปกันอย่างเต็มที่
ที่ตั้ง : ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ เชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 089 837 3373, 094 731 0731
เฟซบุ๊ก : BannmaihomHinoki บ้านไม้หอมฮิโนกิ
42. โครงการบ้านข้างวัด
โครงการเล็กๆ สุดชิคที่ตั้งอยู่ภายในซอยวัดอุโมงค์ ตัวเมืองเชียงใหม่ มีการนำบ้านไม้เก่าแบบพื้นเมืองมาดัดแปลงกลายเป็นร้านค้าขายของฝาก ของที่ระลึกแฮนด์เมด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และแกลลอรี่ บรรยากาศโดยรอบของที่นี่จึงเงียบสงบและชิลสุดๆ เหมาะที่จะมาถ่ายรูป นั่งดื่มกาแฟ กินข้าว เติมพลังงานเพื่อไปเที่ยวที่ต่อไป อีกทั้งที่นี่มักมีการจัดกิจกรรมอยู่ตลอด
ที่ตั้ง : ถนนบ้านร่ำเปิง ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
เฟซบุ๊ก : บ้าน”ข้างวัด”
43. ชุมชนวัดเกต
ตั้งอยู่ภายในวัดเกตการาม ริมฝั่งแม่น้ำปิงด้านตะวันออก เป็นชุมชนโบราณที่เต็มไปด้วยผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติทั้งชาวจีน ฝรั่งและชาวพื้นเมือง จึงก่อเกิดวัฒนธรรมหลากหลายของชุมชน ที่สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมคลาสสิกมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัดเกตการามเป็นศูนย์กลางของชุมชน ที่นี่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายแบบดั้งเดิม การไปเดินเล่นเรื่อยๆ เสพกลิ่นอายของวันวาน นอกจากจะได้รูปถ่ายสวยๆ เก๋ๆ ไม่ซ้ำใครแล้ว ก็ยังจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย
ภายในพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามได้รวบรวมสมบัติดั้งเดิมของวัดเอาไว้ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี เช่น ช่อฟ้า ใบระกา ซึ่งเป็นไม้แกะสลัก ถ้วยชามฝาจีบ ภาชนะต่างๆ เป็นต้น และหลังจากชมอดีตจนจุใจแล้ว อย่าลืมออกมาเดินเลียบริมน้ำปิงชมความงามของอาคารบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งตลอดเส้นทางมีร้านอาหารดั้งเดิมและร้านจำหน่ายของที่ระลึกให้ได้เพลิดเพลิน
ที่ตั้ง : บนฝั่งแม่น้ำปิงด้านตะวันออก ในวัดเกตการาม อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 053 204 273
44. แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่
ภาพจาก Khajonwit Somsri / Shutterstock.com
เสน่ห์ของแกรนด์แคนยอนเชียงใหม่ อยู่ที่ลักษณะคล้ายหน้าผาเหมือนแกรนด์แคนยอน ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำตามธรรมชาติ ภายในมีแอ่งน้ำสีเขียวใสเหมือนมรกต ทำให้ผู้คนมากมายเข้ามาทดสอบความท้าทายด้วยการทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่างๆ ทั้งว่ายน้ำ กระโดดหน้าผา แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่ากิจกรรมเหล่านี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง และไม่เหมาะกับคนที่ว่ายน้ำไม่แข็ง เพราะน้ำในแกรนด์แคนยอนมีความลึกและเย็นมาก พร้อมทั้งมีการให้บริการอุปกรณ์เล่นน้ำ เครื่องเล่นทางน้ำ ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม รวมไปถึงห้องน้ำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวก สบายมากยิ่งขึ้น
ที่ตั้ง : เลขที่ 244 หมู่ 3 บ้านแพะขวาง ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 097 929 8559
เฟซบุ๊ก : GrandcanyonChiangmai
45. อุทยานหลวงราชพฤกษ์
สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 468 ไร่ จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้พืชสวนโลก ภายในพื้นที่มีการจัดภูมิสถาปัตย์อย่างสวยงาม มีการจัดแสดงหมู่มวลดอกไม้หลากหลายสีสันกว่า 1,000 ชนิด พรรณไม้หายากกว่า 500 ชนิด นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรและอื่นๆ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษางานวิจัย และเป็นแหล่งพบปะกันในกลุ่มเกษตรกรอีกด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 053-114110-5
เว็บไซต์ : www.royalparkrajapruek.org
46. เขื่อนแม่กวงอุดมธารา
อีกหนึ่งจุดเช็กอินที่จะทำให้คุณฟินกับบรรยากาศธรรมชาติของเชียงใหม่ ไฮไลต์ที่น่าสนใจเห็นจะอยู่ที่สะพานแขวนสูงใหญ่เหนือลำธารของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมช่องแคบระหว่างเขื่อนแม่กวงอุดมธารากับบ้านป่าสักงาม และยังเป็นเส้นทางสัญจรไป-มาของชาวบ้านทั่วไป รวมถึงยังกลายเป็นจุดชมทัศนียภาพความงามของภูเขาและเขื่อน และภาพวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย เป็นวิถีสโลว์ไลฟ์ที่คุณเองก็คงไม่ได้สัมผัสกันได้บ่อยนัก
ที่ตั้ง : ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
47. สวนสัตว์เชียงใหม่
ชวนไปดูแพนด้าดาวเด่น ณ สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับผืนป่าธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย ภายในมีสัตว์น้อยใหญ่มากมายหลากหลายชนิด ทั้งที่มีอยู่ในประเทศไทยและนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น ครอบครัวแพนด้า ฝูงเพนกวิน หมีโคอาลา สิงโต เสือขาว แมวน้ำ ฯลฯ ซึ่งสัตว์ทั้งหมดจะอาศัยอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของผืนป่าที่เป็นธรรมชาติ ไม่ได้เกิดการปรุงแต่งหรือปรับสภาพมากนัก จึงทำให้รู้สึกเสมือนได้เข้าไปชมสัตว์ในป่าใหญ่จริงๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดกับสัตว์ได้ทุกชนิด อีกทั้งยังมีความปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย
ที่ตั้ง : ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 053 221 179
เว็บไซต์ : www.chiangmai.zoothailand.org
เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์เชียงใหม่ Chiang Mai Zoo
48. สวนพฤกษศาสตร์ วนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติเทียบเท่าระดับสากล ภายในสวนแห่งนี้จึงมีการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวทั่วไปที่สนใจได้เข้าเยี่ยมชม โดยมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายจุด เช่น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ, เส้นทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ (Canopy Walkway), เส้นทาง Banana Avenue แปลงรวบรวมพันธุ์กล้วยที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ, กลุ่มอาคารเรือนกระจก, เส้นทางวลัยชาติ, เส้นทางสวนรุกขชาติ เป็นต้น โดยบริเวณรอบๆ ของสวนนั้นจะมีบรรยากาศเงียบสงบและอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะแก่การไปเที่ยวชมในหน้าร้อน
ที่ตั้ง : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0 5384 1000
เว็บไซต์ : www.qsbg.org
เฟซบุ๊ก : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
49. ตลาดนัดขนมปัง สวนไผ่ล้อม
Nana Jungle ณ บ้านสวนไผ่ล้อม กาดขนมปังสุดฟินที่ตั้งอยู่ด้านหลังที่ทำการ อบต. ช้างเผือก อำเภอเมือง กลิ่นของขนมปังหอมๆ อบใหม่ๆ ลอยฟุ้งมาแต่ไกล บรรยากาศรอบตัวก็แสนจะร่มรื่นไปด้วยต้นไผ่สูงๆ คือเสน่ห์ที่ทำให้ใครๆ ก็อยากมาเยือน ซึ่งขนมของที่นี่ถูกเนรมิตโดย คุณออย และ คุณนิโคล คู่สามีภรรยาช่วยกันอบขนมสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ ขายให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่พักอยู่รอบๆ สวนไผ่ได้กินกัน ส่วนเมนูอร่อยๆ ยอดนิยม ได้แก่ Croissant, Brioche, Quiche, Baguettes, Sour Dough, Pie ไส้ต่างๆ และเมนูขนมปังอื่นๆ อีกมากมาย แถมนอกจากเมนูขนมปังแล้ว ยังมีเครื่องดื่มชา กาแฟ และผลิตภัณฑ์โฮมเมดอื่นๆ วางขายให้เลือกตามอัธยาศัยด้วย
ที่ตั้ง : บ้านสวนไผ่ล้อม อำเภอเมืองเชียงใหม่
เปิดบริการ : ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 08.00 น.
เว็บไซต์ : www.nana-bakery-chiang-mai.com
50. บ้านแม่กำปอง
หมู่บ้านเล็กๆ ที่ก่อตั้งมาประมาณ 100 กว่าปี ประชากรส่วนใหญ่อพยพมาจากอำเภอดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้ๆ แม่น้ำลำห้วย ภายในชุมชนได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พร้อมมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการ
นอกจากนี้ยังมีของดีของเด็ดมากมาย เช่น โบสถ์กลางน้ำ (อุทกสีมา) เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี, พืชพรรณหายาก, สวนเมี่ยง, สวนกาแฟ, ดอยม่อนล้าน, ผลิตภัณฑ์หมอนใบชา, การทำบายศรีสู่ขวัญ, การแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ฯลฯ แวะมาสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันแสนอบอุ่นของชุมชนนี้ได้ รับรองว่าจะประทับใจมิรู้ลืม
ที่ตั้ง : ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
51. พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ตั้งอยู่บนเส้นทางดอยสุเทพ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสวนสวยที่โอบล้อมไปด้วยหมู่มวลดอกไม้งาม มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2504 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงานและเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ รวมทั้งเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยในโอกาสต่างๆ
การเข้าเยี่ยมชมพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จะต้องแต่งกายให้สุภาพ (ห้ามใส่กางเกงขาสั้น, กระโปรงสั้น, เสื้อแขนกุด)
ที่ตั้ง : ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 15.30 น.)
เบอร์โทรศัพท์ : 0 5322 3065
เว็บไซต์ : bhubingpalace.org
52. พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง)
แหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงการศึกษาด้านอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูป และเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงแนวพระราชดำริในการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยจัดตั้งอยู่ในอาคารรูปทรงสวยงามแปลกตา มีสวนสวยร่มรื่น บรรยากาศเงียบสงบ คล้ายกับศูนย์การเรียนรู้ในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ความรู้กลับบ้านแล้ว ก็ยังสามารถที่จะมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดอยคำหลากหลายแบบได้ที่นี่อีกด้วย
ที่ตั้ง : หมู่บ้านบ้านยาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. (ปิดวันจันทร์)
เบอร์โทรศัพท์ : 081 825 8511
เว็บไซต์ : www.firstroyalfactory.or.th
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง)
53. จุดชมวิวนิมมาน ฮิลล์
จุดชมวิวนิมมาน ฮิลล์ ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นเชียงใหม่ เพราะนอกจากที่นี่จะมีร้านอาหารเก๋ๆ บนดาดฟ้าแล้ว ยังออกแบบพื้นที่ให้โล่งกว้าง ตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวขจี โดยมีวิวของเมืองเชียงใหม่ และภูเขาลูกใหญ่ลูกโตเป็นฉากเบื้องหลัง จึงทำให้ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวหลงเสน่ห์วิวทิวทัศน์ของจุดชมวิวแห่งนี้ ซึ่งบางครั้งยังมีการจัดกิจกรรมมินิคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินดังของเมืองไทยอีกด้วย
ที่ตั้ง : ชั้น 6 ศูนย์การค้าเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์
เฟซบุ๊ก : MAYA Chiang Mai
[โครงการหลวงในเชียงใหม่]
54. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ความน่าสนใจของที่นี่มีอยู่ตั้งแต่บริเวณสถานีหลักบ้านขุนกลาง ซึ่งมีการจัดภูมิทัศน์เอาไว้อย่างสวยงาม เผยให้เห็นบ้านขุนกลางและน้ำตกสิริภูมิ ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้และธารน้ำชุ่มฉ่ำของน้ำตก
พลาดไม่ได้กับการชื่นชมความสวยงามของ “สวน 80 พรรษา” ที่ตกแต่งด้วยดอกกุหลาบพันปีและพรรณไม้ตามฤดูกาล ให้คุณได้เดินถ่ายรูปเล่นสวยๆ และลองอาหารรสชาติอร่อยๆ ของสโมสรศูนย์เกษตรหลวงอินทนนท์ เช่น ยำเซเลอรี่หมูย่าง, เป็ดอี้เหลียงอบ กาแฟดอยคำ, ราดหน้าปลาเทราต์ เส้นกรอบ, น้ำพริกเห็ดหอม, ปลาสลิดทอด และผัดไทยพาสต้ากุ้งก้ามแดง เป็นต้น
ที่ตั้ง : หมู่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 053 286 771
เว็บไซต์ : www.inthanonroyalprojectthailand.com
เฟซบุ๊ก : สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon
55. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
โครงการหลวงแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติ เช่น “น้ำตกขุนแปะ” น้ำตกที่มีความสำคัญต่อชาวบ้าน ซึ่งเป็นทั้งแหล่งผลิตน้ำเพื่อการเกษตร แหล่งผลิตไฟฟ้า รวมถึงการลัดเลาะเข้า, “ถ้ำป่ากล้วย” บริเวณโดยรอบเป็นป่าโปร่ง มีทิวทัศน์สวยงาม หรือจะเป็นการเดินทางตามเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ มีอาสาสมัครโดยไกด์ท้องถิ่นอัธยาศัยดี และพลาดไม่ได้กับการชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะที่ “ผาขาว ผาแตก”
ไฮไลต์ของการมาเที่ยวโครงการหลวงขุนแปะยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีทุ่งดอกไฮเดรนเยีย ให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมอีกด้วย ความพิเศษของทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ นั่นคือเป็นทุ่งดอกไฮเดรนเยียหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไทยไม่กี่แห่ง ที่คุณสามารถชื่นชมความสวยงามได้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ทุ่งดอกไฮเดรนเยียของที่นี่มีลักษณะเป็นแปลงปลูกพืชทดลอง ดังนั้นการมาชมอาจจำเป็นต้องอาศัยดวงอยู่เสียหน่อย เพราะบางทีขึ้นมาแล้วดอกไม่บานหรือไม่ก็ถูกเกษตรกรเก็บเกี่ยวดอกไปแล้วนั่นเอง แนะนำให้โทรศัพท์มาสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนก็จะดีมากๆ
ที่ตั้ง : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง
เบอร์โทรศัพท์ : 053 214 417, 081 026 2071
เฟซบุ๊ก : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
56. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ครอบคลุมพื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านป๊อก แม่ลาย บ้านแม่กำปอง และบ้านธารทอง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขาและป่าเบญจพรรณ สูงจากระดับน้ำทะเล 700-1,200 เมตร มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ชมแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีของโครงการหลวง ล้อมรอบด้วยธรรมชาติป่าไม้ และลำน้ำจากน้ำตก มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำโครงการหลวงแห่งแรก
เที่ยวหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแม่กำปอง ชมวิถีชีวิตชาวพื้นเมือง การทำสวนเมี่ยง หมัก-นึ่งเมี่ยงแบบดั้งเดิม และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สวนสมุนไพร โดยสามารถติดต่อให้ไกด์ท้องถิ่นนำชมหมู่บ้านได้รับรองได้
นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวดอยม่อนล้าน ชมธรรมชาติป่าไม้ ต้นกฤษณา กล้วยไม้ป่า และจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งบานและทะเลหมอกช่วงฤดูหนาว และเส้นทางนี้ยังเชื่อมไปถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง, โบสถ์กลางน้ำ ในเชียงใหม่มี 2 แห่ง คือที่อำเภอแม่แจ่มและที่วัดแม่กำปอง (วัดคันธาพฤกษา) ยังมีวิหารที่ทำด้วยไม้สักทอง แกะสลักลวดลายวิจิตรงดงาม เป็นงานสถาปัตยกรรมที่สำคัญของชุมชน เป็นโบสถ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยปลูกไว้กลางน้ำและมีน้ำเป็นใบเสมา
ที่ตั้ง : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก บ้านปางผึ้ง หมู่ 8 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน
เบอร์โทรศัพท์ : 053-318316
57. สวนกุหลาบหลวงห้วยผักไผ่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง
ใครที่ชื่นชอบสีสันและความหอมของดอกกุหลาบเป็นทุนเดิม จะต้องปลาบปลื้มที่นี่อย่างแน่นอน เพราะโดยรอบบริเวณจะถูกแต่งแต้มด้วยดอกกุหลาบมากกว่า 148 สายพันธุ์ มีทั้งสีเหลือง สีม่วง สีแดง สีขาว และดอกที่มีสีแปลกตาหาดูได้ยาก ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่การนั่งทานอาหารท่ามกลางสวนดอกกุหลาบหวาน ที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายความโรแมนติก จะมาเที่ยวกับคนรัก เพื่อน หรือครอบครัว ก็ดูจะเข้ากันไปเสียหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสิ้นปีอากาศหนาวๆ กลิ่นหอมของดอกกุหลาบจะหอมโชยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
ภายในประกอบด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีที่นั่งให้คุณละเมียดความอร่อยใต้ร่มเงาไม้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือหวาน ล้วนแล้วผ่านการคัดสรรเลือกเฟ้นวัตถุดิบที่ทั้งสดและใหม่ เรียกได้ว่าอร่อยทุกคำ
ที่ตั้ง : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง อำเภอหางดง
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 09 9135 1118
เฟซบุ๊ก : สวนกุหลาบหลวง ห้วยผักไผ่
58. โครงการหลวงแม่โถ
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ ที่ตั้งอยู่ในโลเคชั่นสวยๆ ภูเขาสลับซับซ้อน ครอบคลุม 2 อำเภอ คือ อำเภอฮอดและอำเภอแม่แจ่ม โครงการดีๆ ที่ช่วยส่งเสริมการให้ชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยงให้ลดการปลูกฝิ่น ทำไร่เลื่อนลอยจากในอดีต และหันมาส่งเสริมอาชีพการเกษตรแผนใหม่ กับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เช่น การชมแปลงปลอดสารพิษ กะหล่ำปลี, ผักกาด, เบบี้ฮ่องเต้, คอสสลัด, โอ๊คคลีฟแดง และผักโขมแดง พร้อมชมการปลูกผักในโรงเรือนไม้ไผ่ ชมแปลงผลไม้สดๆ เช่น พลับ, อะโวคาโด และมัลเบอร์รี ปิดท้ายด้วยแปลงดอกอัลสโตรมีเรีย แถมยังมีเมนูปรุงสดๆ ถูกใจคนชอบทานผักมากๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งผักที่ปลูกอยู่ที่นี่ก็จะส่งขายตามแหล่งต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารขนาดใหญ่ๆ
ที่ตั้ง : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ บ้านแม่โถ ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด
เบอร์โทรศัพท์ : 0 5321 0935
เฟซบุ๊ก : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ
[แหล่งช้อปปิ้งในเชียงใหม่]
59. ถนนคนเดิน
ถนนคนเดินเชียงใหม่ มีอยู่ 2 ที่ คือ “ถนนคนเดินวัวลาย” (เริ่มตั้งแต่ปากทางเข้าฝั่งถนนช่างหล่อ ใกล้ประตูเชียงใหม่ จนไปสิ้นสุดที่ถนนทิพย์เนตร) หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า “ถนนคนเดินวันเสาร์” เพราะเปิดเฉพาะวันเสาร์ เวลา 17.00-22.00 น. โดยในทุกค่ำคืนของวันเสาร์ถนนสายนี้จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติที่หมายมุ่งมาละลายทรัพย์จับจ่ายสินค้าพื้นเมือง งานฝีมือ ของที่ระลึกน่ารักๆ รวมไปถึงอาหารคาว-หวานแสนอร่อยกันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีการแสดงเล็กๆ น้อยๆให้ได้ชมกันด้วย
“ถนนคนเดินท่าแพ” (จากประตูท่าแพเรื่อยไปตามถนนราชดำเนิน จนถึงวัดพระสิงห์ฯ และจากสี่แยกกลางเวียงเรื่อยไปจนถึงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร) เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 17.00-23.00 น. แหล่งละลายทรัพย์ชั้นยอดที่เปิดขายของชั้นเยี่ยม พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ช้อป ชิล ชมกันแบบเต็มอิ่มกับสินค้าหลากหลายชนิด เรียกได้ว่าช้อปกันแบบจุใจ นอกจากนี้หากท้องร้องก็สามารถแวะชิมของอร่อยขึ้นชื่อที่มีให้เลือกมากมายละลานตา
60. กาดหลวง (ตลาดวโรรส)
แหล่งช้อปปิ้งที่เราจะแนะนำก็คือ “กาดหลวง” หรือ “ตลาดวโรรส” ตลาดขนาดใหญ่ที่ถือเป็นแหล่งซื้อของฝากที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ มีทั้งของหวาน ของคาว ของแห้ง ของสด และสินค้าพื้นเมือง และยังเป็นแหล่งซื้อผลไม้เมืองหนาวอย่างสตรอว์เบอร์รีที่ดีและถูกอีกด้วย
นี่ก็เป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ส่วนหนึ่งที่เราหยิบยกมาเท่านั้น ที่เชียงใหม่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอีกเพียบ ที่รอให้คุณได้ไปสัมผัสและชมความสวยงาม เห็นแบบนี้ต้องหาเวลาว่างไปเที่ยวเชียงใหม่บ้างซะแล้ว