ขุนแผนทรงพลใหญ่พรายกุมาร หลวงปู่ฤทธิ์ รัตนโชโต

ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ฤทธิ์

อัพเดทล่าสุดเมื่อ มากกว่าหนึ่งปี

พระขุนแผนหลวงปู่ฤทธิ์ รุ่นรวยเงิน รวยทอง วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์ ๒๕๔๗ พระขุนแผนหลวงปู่ฤทธิ์ รุ่น?รวยเงิน รวยทอง?มวลสารสุดแสนพิสดาร ฯ เนื้อผงว่าน ผสมผงไม้ตะเคียนเสกรวมอำนาจจิต ๓ ผสาน ๓ วาระ ๑ จันทราคราส ดังมี หลวงปู่ธรรมรังษี..หลวงปู่ฤทธิ์.. ขุนแผนผงพรายกุมาร ใช้ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมผสมในการสร้างปลุกเสกโดยหลวงปู่ธรรมรังษี โดยใช้มวลสารสำเร็จจากผงพรายกุมารและขุนแผนลงกรุที่ชำรุดของหลวงปู่ทิม อิสริโก ซึ่งได้จากศิษย์สายตรงคุณชินพร สุขสถิตย์ แห่งมูลนิธิหลวงปู่ทิม ไม้อาถรรพ์ต่าง ๆ เช่นว่านดอกทอง ,ไม้กาหลง (ต้นไม้ที่นกกาบินมาเกาะแล้วหาทางออกไม่ได้ บินวนไปมาจนตาย), ไม้มะยมตายพราย,ไม้กาฝากรัก, ไม้ปะนมปีเก็ง(ไม้วัวลืมคอก) ,และไม้หลงลืมผสมกับสีผึ้ง และน้ำมันเสกเดือด ของหลวงปู่ทิม อิสริโกและยังผสมด้วย น้ำมันช้างตกมัน(กั่วเผาะ) และงากำจาย ,ผงบางส่วนที่ได้จาก หลวงปู่ธรรมรังษีท่านได้ปลุกเสกคืนวัน "กบกินเดือน" ( ขึ้น ๑๕ ค่ำของวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๐ วันจันทรคราส เวลา ๐๑.๐๙ น.) ต่อจากนั้นจึงนำไปให้ "หลวงปู่ฤทธิ์? วัดชลประทานราชดำริ บุรีรัมย์ปลุกเสกเป็นท่านสุดท้าย วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย ของหลวงปู่ฤทธิ์ บอกไว้ว่า วัตถุมงคลรุ่นนี้จะต้องเป็นสุดยอดแห่งเครื่องราง ของขลัง โดยเป็นชุดที่หลวงปู่มีความตั้งใจบรรจุพลังจิตปลุกเสก ๑๐๘ ซึ่งท่านได้ร่ำเรียนมาจากยอดพระเกจิอาจารย์ในอดีตตามแบบวิชาเขมรโบราณ มีความเข้มขลัง เต็มไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่ปรากฏอย่างกว้างขวางประจักษ์แจ้งแห่งวงการผู้นิยมวัตถุมงคลเครื่อง รางของขลังทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ หลวงปู่ฤทธิ์ท่านเน้นหนัก หนาว่าผู้ที่นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ไปใช้ จะต้องพบกับความสุข ความเจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน อีกทั้งแคล้วคลาด ค้าขายดี มีโชคลาภ มีเสน่ห์ แก่เพศตรงข้าม ใครเห็นต่างเอ็นดู หลวงปู่ฤทธิ์ กล่าวว่า ผู้ใดบูชาพระขุนแผนรุ่น " รวยเงิน รวยทอง " นี้ ต่อไปจะหายาก เพราะมวลสารที่นำมาผสมในองค์พระล้วนทรงคุณค่ายากจะหาสิ่งใดมาเทียบ เป็นพระผงชุดเดียวเองที่หลวงปู่บรรจงสร้างขึ้นมาเพื่อให้ศิษยานุศิษย์นำไป ใช้ หลวงปู่มักจะพูดอยู่เสมอว่า พระขุนแผนรุ่นนี้ดีน่าเก็บไว้เถิดจะดีเอง หลวงปู่ฤทธิ์ รุนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์ หลวงปู่ฤทธิ์ รตฺนโชโต ชื่อเดิม ฤทธิ์ ไม้ลึกดี เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ พ.ค. ๒๔๕๙ อายุ ๘๙ ปี พรรษารวม ๖๖ พรรษา ได้รับพระบรมราชานุญาตเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ เป็นพระครูอินทวรคุณ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ต.ทุ่งมนต์ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ บวชเป็นพระภิกษุตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๔๘๒ ที่วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมนต์ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ก่อนย้ายมาจำวัดและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอินทบูรพา ต.บ้านปรือ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และเป็นพระนักพัฒนาได้ธุดงค์ปักกลด บริเวณป่าที่สร้างวัดชลประทานราชดำริปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๗ หรือ ๒๑ ปี ก่อนพัฒนาเป็นสำนักสงฆ์และสร้างเป็นวัดชลประทานราชดำริ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจนถึงปัจจุบัน ศิษยานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธาทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีชื่อเสียงในการเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังเกี่ยวกับวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก